มนุษย์เราเอ๋ย เกิดมาทำไม
นิพพานมีสุขอยู่ใยมิไป
ตัณหาหน่วงหนักหน่วงชักหน่วงไว้
ฉันใดไปมิได้ตัณหาผูกพัน
ห่วงนั้นพันผูกห่วงลูกห่วงหลาน
ห่วงทรัพย์สินศฤงคารจงสละเสียเถิด
จะได้ไปนิพพานข้ามพ้นภพสาม
ยามหนุ่มสาวน้อยหน้าตาแช่มช้อย
งามแล้วทุกประการแต่เฒ่าหนังยาน
แต่ล้วนเครื่องเหม็นเอ็นใหญ่เก้าร้อย
เอ็นน้อยเก้าพันมันมาทำเข็ญใจ
ให้ร้อนให้เย็นเมื่อยขบทั้งตัว
ขนคิ้วก็ขาวนัยน์ตาก็มัว
เส้นผมบนหัวดำแล้วกลับหงอก
หน้าตาเว้าวอกดูหน้าบัดสี
จะลุกก็โอยจะนั่งก็โอย
เหมือนดอกไม้โรยไม่มีเกสร
จะเข้าที่นอนพึงสอนภาวนา
พระอนิจจังพระอนัตตา
เราท่านเกิดมารังแต่จะตาย
ผู้ดีเข็ญใจก็ตายเหมือนกัน
เงินทองทั้งนั้นมิติดตัวไป
ตายไปเป็นผีลูกเมียผัวรัก
เขาชักหน้าหนีเขาเหม็นซากผี
เปี่อยเน่าพุพองหมู่ญาติพี่น้อง
เขาหามเอาไปเขาวางลงไว้
เขานั่งร้องไห้แล้วกลับคืนมา
อยู่แต่ผู้เดียวป่าไม้ชายเขียว
เหลียวไม่เห็นใครเห็นแต่ฝูงแร้ง
เห็นแต่ฝูงกาเห็นแต่ฝูงหมา
ยื้อแย่งกันกินดูหน้าสมเพช
กระดูกเราเอ๋ยเรียงรายแผ่นดิน
แร้งกาหมากินเอาเป็นอาหาร
เที่ยงคืนสงัดตื่นขึ้นมินาน
ไม่เห็นลูกหลานพี่น้องเผ่าพันธุ์
เห็นแต่นกเค้าจับเจ่าเรียงกัน
เห็นแต่นกแสกร้องแรกแหกขวัญ
เห็นแต่ฝูงผีร้องไห้หากัน
มนุษย์เราเอ๋ยอย่าหลงกันเลย
ไม่มีแก่นสารอุตส่าห์ทำบุญ
ค้ำจุนเอาไว้จะได้ไปสวรรค์
จะได้ทันพระพุทธเจ้าจะได้เข้านิพพาน
อะหังวันทามิสัพพะโสอะหังวันทามิ
นิพพา นะปัจจะโยโห......ตุ
ข้อมูลดีดี : ธรรมะไทย