THAI ยันพนักงานยังได้รับความคุ้มครองตามกม.แรงงานหลังเข้าสู่โครงสร้างใหม่
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า เพื่อให้การฟื้นฟูกิจการสำเร็จลุล่วงจนบริษัทฯ สามารถประกอบกิจการต่อไปได้ บริษัทจำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างองค์กร และกลยุทธ์ทางธุรกิจหลายๆ ด้าน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงานมากขึ้น อันจะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และการบริหารจัดการต้นทุนให้สามารถแข่งขันในตลาดได้
ในส่วนของการปรับโครงสร้างองค์กรนั้น บริษัทฯ ใช้วิธีขอความร่วมมือจากพนักงานให้ความยินยอมเปลี่ยนสภาพการจ้างตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน โดยขอให้พนักงานพิจารณาให้ความช่วยเหลือบริษัทฯ เพื่อให้การฟื้นฟูกิจการสามารถทำได้สำเร็จเพื่อที่การบินไทยจะได้กลับมาเป็นองค์กรที่แข่งขันได้และสามารถสร้างความภูมิใจแก่ประเทศไทยได้ในฐานะที่เป็นสายการบินแห่งชาติที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ
พนักงานที่แสดงความจำนงเข้าสู่กระบวนกลั่นกรองสู่โครงสร้างองค์กรใหม่ 2564 ยังคงเป็นลูกจ้างของบริษัทฯ อยู่โดยไม่ต้องลาออกจากการเป็นพนักงานก่อนแสดงความจำนง ซึ่งการแสดงความจำนงเป็นเพียงการให้ความยินยอมในการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง อาทิ ตำแหน่งงาน ค่าจ้าง และสวัสดิการต่างๆ ที่จะได้รับตามโครงสร้างองค์กรและสิทธิประโยชน์ใหม่เท่านั้น
หากพนักงานที่แสดงความจำนงได้รับการกลั่นกรองเข้าสู่โครงสร้างองค์กรใหม่ อายุงานของพนักงานจะนับต่อเนื่อง รวมถึงการนับอายุงานตามกองทุนบำเหน็จและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็นับอายุงานต่อเนื่องด้วย ส่วนสภาพการจ้างจะเปลี่ยนแปลงไปโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป
สำหรับพนักงานที่ไม่แสดงความจำนงเข้ากระบวนกลั่นกรองสู่โครงสร้างองค์กรใหม่ 2564 และไม่เข้าร่วมโครงการร่วมใจจากองค์กร จะยังคงเป็นพนักงานของบริษัทฯ ภายใต้สภาพการจ้างเดิมต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการและพิจารณาอย่างรอบคอบรัดกุม ภายใต้กรอบกฏหมายล้มละลาย และกฏหมายคุ้มครองแรงงาน โดยคำนึงถึงสถานการณ์ของบริษัทฯ และความเป็นธรรมต่อพนักงานอย่างที่สุด และบริษัทฯ หวังว่าจะได้รับความร่วมมือร่วมใจจากพนักงานให้ความยินยอมเปลี่ยนสภาพการจ้างดังกล่าว