คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๘๖๐/๕๗
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลย ตำแหน่งสุดท้ายเป็นผู้จัดการสาขาย่อย คาร์ฟูร์ หนองจอก ได้รับค่าจ้างเดือนละ ๔๓,๗๘๐ บาท กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันที่ ๒๕ ของเดือน ต่อมาวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๓ จำเลยเลิกจ้างโจทก์อ้างว่าโจทก์จงใจฝ่าฝืนนโยบาย คำสั่ง กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และจรรยาบรรณของพนักงาน โดยเสนอขายประกันชีวิตของลูกค้าผิดเงื่อนไข ทั้งที่ทราบว่าลูกค้าหลายรายไม่มีคุณสมบัติตามที่จำเลยกำหนด ซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นการเลิกจ้างโดยโจทก์ไม่มีความผิด ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า และเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชย ๔๓๗,๘๐๐ บาท และค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี ๑๕,๓๒๓ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ๘๑,๗๒๒ บาท และค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ๔,๐๐๖,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ดอกเบี้ยทุกรายการนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น โดยเป็นผู้สั่งให้เสนอขายประกันชีวิตของลูกค้าผิดเงื่อนไขหลายราย ทั้งที่ทราบว่าลูกค้าไม่มีคุณ สมบัติตามที่ธนาคารกำหนด โดยลูกค้าบางรายไม่มีสินเชื่อเคหะกับธนาคาร แต่สร้างหลักฐานข้อมูลบัญชีเงินกู้ให้แก่ลูกค้า ถือเป็นการนำส่งข้อมูลลูกค้าที่เป็นเท็จให้แก่บริษัทประกันชีวิต ทำให้จำเลยมีความเสี่ยงและได้รับความเสียหายเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง จำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายเงินทุกรายการตามฟ้อง และมิใช่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระค่าชดเชย ๔๓๗,๘๐๐ บาท ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี ๑๕,๓๒๓ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ๕๔๖,๘๗๗ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ดอกเบี้ยทุกรายการนับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติว่า ระยะเวลาทำงานของโจทก์ ตำแหน่งหน้าที่ อัตราค่าจ้าง และกำหนดการจ่ายค่าจ้างเป็นไปตามคำฟ้อง จำเลยเป็นธนาคารพาณิชย์ มีวัตถุประสงค์ กรรมการและการมอบอำนาจตามคำให้การ โจทก์กระทำการตามคำให้การจริง จำเลยมีระเบียบให้ลูกค้าที่มีสินเชื่อกู้เงินจากจำเลยเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยต้องซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตจากบริษัทประกันชีวิตในเครือของจำเลย กรณีลูกค้ารายนั้นเสียชีวิต บริษัทประกันชีวิตจะชำระหนี้เงินกู้ให้จำเลยแทนลูกค้า โดยโจทก์เสนอชื่อลูกค้าที่ไม่ได้มีสินเชื่ออยู่กับจำเลยไปทำประกันชีวิตกับบริษัทประกันชีวิตในเครือของจำเลยจำนวน ๖ ราย พนักงานสินเชื่อของจำเลยทักท้วงโจทก์แล้ว แต่โจทก์ยังส่งรายชื่อลูกค้าดังกล่าวไปให้บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันชีวิตปฏิเสธไม่รับทำประกันชีวิตให้ลูกค้าดังกล่าวเนื่องจากผิดเงื่อนไข จำเลยมีข้อบังคับว่าด้วยวินัยและการรักษาวินัย การลงโทษ และการอุทธรณ์การลงโทษของพนักงานและลูกจ้างตามเอกสารหมาย ล.๑๑ และมีข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานตามเอกสารหมาย ล.๑๒ จำเลยมีหนังสือแจ้งโทษทางวินัยให้โจทก์ออกจากการเป็นพนักงานของจำเลยตามเอกสารหมาย ล.๑๓
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า การกระทำของโจทก์เป็นการจงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายและฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระเบียบ หรือคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมในกรณีที่ร้ายแรงหรือไม่ เห็นว่าจำเลยเป็นธนาคารพาณิชย์ ประกอบธุรกิจการเงิน ความเชื่อถือของลูกค้าต่อจำเลยและความไว้วางใจของจำเลยต่อพนักงานของจำเลยถือเป็นหัวใจและปัจจัยสำคัญ พนักงานของจำเลยจึงต้องปฏิ บัติตามนโยบาย คำสั่ง กฎ ระเบียบ และข้อบังคับของจำเลยโดยเคร่งครัด โดยเฉพาะโจทก์มีตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบเป็นผู้จัดการสาขา โจทก์ต้องรักษาวินัยโดยเคร่งครัดอยู่เสมอในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาของพนักงานในสาขา แต่ปรากฏว่าโจทก์เสนอรายชื่อลูกค้าที่ไม่มีคุณ สมบัติตามที่จำเลยกำหนดไปทำประกันชีวิตกับบริษัทประกันชีวิตในเครือของจำเลยจำนวนหลายราย ทั้งที่พนักงานสินเชื่อซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของโจทก์ทักท้วงโจทก์แล้ว จนทำให้บริษัทประกันชีวิตปฏิเสธไม่รับทำประกันชีวิตให้ลูกค้าดังกล่าว เนื่องจากผิดเงื่อนไข ถือได้ว่า การกระทำของโจทก์เป็นการจงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายและฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระเบียบหรือคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมในกรณีร้ายแรง จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่โจทก์ การเลิกจ้างโจทก์ด้วยเหตุดังกล่าวจึงมีเหตุสมควรและเพียงพอ มิใช่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีและค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมให้แก่โจทก์นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องเสียทั้งหมด
เรียบเรียงโดย บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด