คำแนะนำสำหรับผู้ประกันตนเมื่อเกษียณอายุ ใช้ได้ จริงหรือไม่
- จริง เป็นกฎกระทรวงที่กำหนดว่าถ้าใครก็ตามที่รับบำนาญไปแล้ว แล้วกลับเข้ามาเป็นผู้ประกันตนใหม่ บำนาญนั้นจะหยุดลง แล้วก็หลังจากที่จะได้รับบำนาญต่อก็คือสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 แต่จำนวนบำนาญที่ได้รับจัมาได้รับเท่ากับที่รับครั้งแรก
ตัวเลขฐานเงินเดือนในการคำนวณบำนาญ 15,000 บาทในมาตรา 33 กับฐานเงินเดือนในการคำนวณบำนาญของมาตรา 39 ซึ่งอยู่ที่ 4,800 บาท คิดจาก
- จากเงิน 15,000 และ 4,800 บาท ใช้มาตั้งแต่เริ่มประกันสังคมเลย ฐานค่าจ้างของ 4,800 บาท ได้มาคือจะเป็นค่าจ้างขั้นต่ำของปี 2534 คูณด้วย 26 วันถึงได้ออกมาเป็น 4,800 บาท เพราะว่ามาตรา 39 ไม่มีนายจ้าง คิดเทียบเคียงกับฐานค่าจ้างขั้นต่ำ
- ส่วนเงิน 15,000 บาท มีกระบวนการคิดจากนักคณิตศาสตร์ประกันภัย ไม่ว่าจะเรื่องของค่าจ้างขั้นต่ำภาวะเงินเฟ้อ ปัจจัยอื่นๆ จนออกมาเป็นฐานค่าจ้าง 15,000 บาท ใครก็ตามที่มีค่าจ้างมากกว่า 15,000 บาท จะคิดฐานค่าจ้างแค่ 15,000 บาท น้อยกว่า 15,000 บาท ก็คิดตามจริง
นอกจากฐานในการคำนวณบำนาญแล้วการเปลี่ยนเป็นมาตรา 39 ทันที ยังมีผลกระทบด้านอื่นอีกหรืไม่
- ไม่มีเลย ถ้าเปลี่ยนจากมาตรา 33 มาเป็น มาตรา 39 ก็คือมาจ่ายเงินสมทบของตัวเองทั้ง 2 ส่วน เดือนละ 432 บาท จ่ายเงินสมทบ 9 เปอร์เซ็นต์ปกติแล้ว ถ้า มาตรา 33 ลูกจ้างจะจ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ นายจ้างจะจ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ มาตรา 39 ทำไมจ่ายแค่ 9 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าไม่ได้ดูแลเรื่องว่างงาน ก็ไม่ต้องจ่ายเงินสมทบเรื่องว่างงาน
แบบนี้ผู้ประกันตนควรจะเลือกรับสิทธิแบบไหนดี
- ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของผู้ประกันตนรายนั้นๆ ว่าจะสมัครเลยไหม เพราะว่าเขายังมีสิทธิที่จะใช้สิทธิปกติสิทธิทุกอย่างเหมือนเดิมหมด ยกเว้นเรื่องว่างงาน 6 เดือน แต่ภายใน 6 เดือนเกินวันเดียวก็ไม่ได้ ต้องสมัครมาตรา 39 ถ้าเกิน 6 เดือนไปแล้วก็หมดสิทธิ สำหรับการที่จะแนะนำว่าจะรับบำนาญเลยไหม ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ประกันตน ว่าต้องการเก็บรักษาเงินก้อนนี้ไว้ในลักษณะไหน แต่ถ้าเกิดว่าจะรับบำนาญเลย ก็คิดเงินจากฐาน 15,000 บาท แล้วก็ภายใน 6 เดือน ก็สมัครมาตรา 39 หรือบางรายอาจจะไม่รับเลย ก็เก็บเงินสิทธิประโยชน์เหล่านี้เป็นเงินก้อนไว้ให้กับทายาท
เข้าไปดูที่ www.youtube.com/watch?v=0DL-AMT53s0