ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article

คำพิพากษาฎีกาที่    ๑๙๑๔๐  - ๑๙๑๗๓/๕๗

สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง   อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก   ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่   ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้

 

                                                โจทก์ทั้งสามสิบสี่ฟ้องว่า  โจทก์ทั้งสามสิบสี่เป็นลูกจ้างของจำเลย  โจทก์ทั้งสามสิบสี่กับจำเลยมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่  ๗  กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙  ที่มีผลใช้บังคับอยู่   เรื่องการปรับค่าจ้างว่าในกรณีที่รัฐบาลประกาศปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจำเลยตกลงปรับค่าจ้างให้ลูกจ้างทุกคนในอัตราตามผลต่างของอัตรา ค่าจ้างขั้นต่ำเดิมกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่   ต่อมารัฐบาล  (  ที่ถูกเป็นคณะกรรมการค่าจ้าง ) ได้ประกาศกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ ๓๐๐ บาท  ในท้องที่จังหวัดสมุทรปราการซึ่งโจทก์ทั้งสามสิบสี่ทำงาน  โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่  ๑  เมษายน  ๒๕๕๕  ซึ่งมีผลให้จำเลยต้องปรับค่าจ้างให้ตามผลต่างของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเดิมกับอัตราค่าจ้าง ขั้นต่ำใหม่เป็นจำนวนวันละ  ๘๕  บาท  แต่จำเลยได้ปรับค่าจ้างเดือนเมษายน  ๒๕๕๕  ถึงเดือนเมษายน  ๒๕๕๖  ให้โจทก์ทั้งสามสิบสี่เป็นจำนวนน้อยกว่าอัตราตามที่กำหนดในข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างดังกล่าว จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างที่ค้างดังกล่าวให้แก่โจทก์ทั้งสามสิบสี่  ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าจ้างค้างจ่ายพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  ๑๕  ต่อปี  แก่โจทก์ทั้งสามสิบสี่  ตามคำขอท้ายคำฟ้องของโจทก์แต่ละคน

 

                                        จำเลยให้การว่า  ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่  ๗  กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙ เรื่องการปรับค่าจ้างที่ว่าในกรณีที่รัฐบาลประกาศปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจำเลยตกลงปรับค่าจ้างให้ลูกจ้างทุกคนในอัตราตาม ผลต่างของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเดิมกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่นั้น มิได้กำหนดระยะเวลาใช้บังคับไว้   จึงมีผลใช้บังคับได้เพียง  ๑  ปี  นับแต่วันที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์  พ.ศ.  ๒๕๑๘  มาตรา  ๑๒   แม้รัฐบาล  (  ที่ถูกเป็นคณะกรรมการค่าจ้าง  )  จะประกาศกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ  ๓๐๐  บาท ในท้องที่จังหวัดสมุทรปราการซึ่งโจทก์ทั้งสามสิบสี่ทำงานโดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่  ๑  เมษายน  ๒๕๕๕  จำเลยก็ไม่จำต้องปรับค่าจ้างตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่  ๗  กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙  เนื่องจากโจทก์ทั้งสิบสี่ได้รับค่าจ้างเกินกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่คณะกรรมการค่าจ้างกำหนใหม่  แต่เมื่อวันที่  ๖  เมษายน  ๒๕๕๕  จำเลยกับสภาพแรงงานนิวโจโฮคุซึ่งเป็นสหภาพแรงงานของลูกจ้างจำเลยโดยประธานและกรรมการสหภาพแรงงานซึ่งมีอำนาจกระทำการแทนลูก จ้างทุกคนก็ยังได้ทำหนังสือข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเกี่ยวกับการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็นระบบขั้นบันได ใช้บังคับแทนข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่  ๗  กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙  จึงมีผลให้ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่ ๗ กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙  สิ้นผลไป  แล้วจำเลยได้ปรับเพิ่มค่าจ้างให้ลูกจ้างทุกคนรวมโจทก์ทั้งสามสิบสี่ด้วยตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่  ๖  เมษายน  ๒๕๕๕  นับตั้งแต่วันที่  ๑ เมษายน ๒๕๕๕  แล้ว จำเลยจึงไม่ได้ปฏิบัติผิดต่อข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่  ๗  กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙  ขอให้ยกฟ้อง

 

                                                ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว  พิพากษายกฟ้อง

 

                                                โจทก์ทั้งสามสิบสี่อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

 

                                                ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว  ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า  จำเลยว่าจ้างโจทก์ทั้งสามสิบสี่เข้าทำงานเป็นลูกจ้าง  ขณะรัฐบาล  (  ที่ถูกเป็นคณะกรรมการค่าจ้าง  )  ได้ประกาศกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ  ๓๐๐  บาท  ในท้องที่จังหวัดสมุทรปราการซึ่งโจทก์ทั้งสามสิบสี่ทำงานโดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่  ๑  เมษายน  ๒๕๕๕  โจทก์ทั้งสามสิบสี่กับจำเลยมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่  ๗  กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙  โดยมิได้กำหนดระยะเวลาใช้บังคับไว้  ตามเอกสารหมาย  ล.๑   ในเรื่องการปรับค่าจ้างว่า  ในกรณีที่รัฐบาลมีประกาศปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ  จำเลยตกลงปรับค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างทุกคนตามผลต่างของอัตราค่าจ้างขั้น ต่ำเดิมกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่   ต่อมาเมื่อวันที่  ๖  เมษายน  ๒๕๕๕  จำเลยกับสหภาพแรงงานนิวโจโฮคุซึ่งเป็นสหภาพแรงงานของลูกจ้างจำเลยได้ประชุมเกี่ยวกับเรื่องการปรับขึ้นค่าจ้างและได้ตกลงในเรื่องดังกล่าวเป็นหนังสือตามเอกสารหมาย  ล.๒  ว่าจะปรับเพิ่มค่าจ้างให้ลูกจ้างเป็นระบบขั้นบันใด  ๓  ครั้ง  สำหรับลูกจ้างที่เงินเดือนไม่ถึง  ๑๐,๓๕๐  บาท  ตั้งแต่วันที่  ๑  เมษายน   ๒๕๕๕  จะปรับเพิ่มให้วันละ  ๔๐  บาท  ตั้งแต่วันที่  ๑  เมษายน  ๒๕๕๖   จะปรับเพิ่มให้วันละ  ๓๐  บาท  โดยมีเงื่อนไขว่าปริมาณการทำงานต้องเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก  ๑๒  เปอร์เซ็นต์  บวกลบ  ๑  เปอร์เซ็นต์   จะบวกลบ  ๑  บาท   และจะพิจารณาว่าทำได้ตามที่กำหนดหรือไม่   ในเดือนตุลาคม  ๒๕๕๕  และตั้งแต่วันที่  ๑  มกราคม  ๒๕๕๗   จะปรับเพิ่มให้วันละ  ๑๕  บาท  ในส่วนลูกจ้างที่เงินเดือนตั้งแต่  ๑๐,๓๕๑  บาท  ขึ้นไป  ตั้งแต่วันที่  ๑  เมษายน  ๒๕๕๕   จะปรับเพิ่มให้วันละ  ๓๐  บาท  ตั้งแต่วันที่  ๑  มกราคม  ๒๕๕๖  จะปรับเพิ่มให้วันละ  ๒๐  บาท  โดยมีเงื่อนไขว่าปริมาณการทำงานต้องเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก  ๑๒  เปอร์เซ็นต์  บวกลบ  ๑  เปอร์เซ็นต์  จะบวกลบ  ๑  บาท   และจะพิจารณาว่าทำได้ตามที่กำหนดหรือไม่ในเดือนตุลาคม  ๒๕๕๕  และตั้งแต่วันที่  ๑  มกราคม  ๒๕๕๗   จะปรับเพิ่มให้วันละ  ๒๐ บาท  และลูกจ้างทุกคนรวมโจทก์ทั้งสามสิบสี่ได้รับการทยอยปรับค่าจ่างระบบขั้นบันไดตามที่ได้ตกลงเมื่อวันที่  ๖  เมษายน  ๒๕๕๕  แล้วจนถึงปัจจุบัน   แล้ววินิจฉัยว่า   ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่  ๗  กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙  มิได้กำหนดระยะเวลาใช้บังคับไว้จึงมีผลใช้บังคับ  ๑  ปีนับแต่วันที่นายจ้างและลูกจ้างได้ตกลงกัน   แต่เมื่อครบ  ๑  ปีมิได้มีการตกลงเจรจากันใหม่มีผลใช้บังคับต่อไปอีกคราวละ  ๑  ปี  เมื่อคณะกรรมการค่าจ้างได้ประกาศกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่เป็นเงินวันละ  ๓๐๐  บาท  ในท้องที่จังหวัดสมุทรปราการซึ่งโจทก์ทั้งสามสิบสี่ทำงานโดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่  ๑  เมษายน  ๒๕๕๕  จำเลยและสหภาพแรงงานนิวโจโฮคุโดยประธานและกรรมการสหภาพแรงงานซึ่งมีอำนาจกระทำการแทนลูกจ้างทุกคนได้ตกลงเป็นหนังสือฉบับลงวันที่  ๖  เมษายน  ๒๕๕๕  ว่า  ให้ปรับเพิ่มค่าจ้างให้ลูกจ้างเป็นระบบขั้นบันได  ตามเอกสารหมาย  ล.๒  ทำให้ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่  ๗  กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙  ไม่มีผลใช้บังคับ  เมื่อลูกจ้างทุกคนรวมโจทก์ทั้งสามสิบสี่ได้รับการปรับขึ้นค่าจ้างตามข้อตกลงฉบับลงวันที่  ๖  เมษายน  ๒๕๕๕    เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันแล้ว  จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด

 

                                                มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสามสิบสี่ว่า  โจทก์ทั้งสามสิบสี่มีสิทธิได้รับการปรับขึ้นค่าจ้างเพิ่มจากที่ได้รับการปรับขึ้นไปแล้วตามจำนวนที่ยังขาดอยู่ตามที่ระบุในข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างหรือไม่   เห็นว่า   เมื่อข้อเท็จจริงคดีนี้ปรากฏตามที่ศาลแรงงานกลางฟังและที่คู่ความไม่โต้แย้งกันว่า  ขณะคณะกรรมการค่าจ้างได้ประกาศกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ  ๓๐๐  บาท  ในท้องที่จังหวัดสมุทรปราการ  ซึ่งโจทก์ทั้งสามสิบสี่ทำงานเป็นลูกจ้างของจำเลย  โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่  ๑ เมษายน ๒๕๕๕ จำเลยกับลูกจ้างของจำเลยจัดทำข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่  ๗  กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙  ว่าในกรณีที่รัฐบาลมีประกาศปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ  จำเลยตกลงปรับค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างทุกคนตามผลต่างของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเดิมกับอัตราค่าจ้างขั้น ต่ำ  ใหม่โดยจัดทำขึ้นตามข้อเรียกร้องของลูกจ้าง  ต่อมาเมื่อวันที่  ๖  เมษายน  ๒๕๕๕  จำเลยกับสหภาพแรงงานนิวโจโฮคุซึ่งเป็นสหภาพแรงงานของลูกจ้างโดยประธานและกรรมการสหภาพแรงงานประชุมเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าจ้างของลูกจ้างที่มีการประกาศกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำดังกล่าว  และได้ตกลงเป็นหนังสือว่า   จำเลยไม่อาจปรับขึ้นค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในอัตราตามผลต่างของอัตรา ค่าจ้างขั้นต่ำเดิมกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่   ที่มีจำนวนเป็นเงินวันละ  ๘๕  บาท  ในคราวเดียวได้    จึงตกลงให้แบ่งทยอยปรับขึ้นค่าจ้างในลักษณะขั้นบันได  ๓  ครั้ง  ตามเอกสารหมาย  ล.๒  ลูกจ้างจำเลยทุกคนรวมทั้งโจทก์ทั้งสามสิบสี่ได้รับการปรับขึ้นค่าจ้างตามข้อตกลงฉบับลงวันที่  ๖  เมษายน  ๒๕๕๕  แล้ว  แต่การดำเนินการของสหภาพแรงงานนิวโจโฮคุที่ไปประชุมตกลงกับจำเลยเรื่องการทยอยปรับขึ้นค่าจ้างนั้น  ไม่ได้แจ้งแก่สมาชิกทราบและไม่ได้เรียกประชุมสมาชิกก่อน   ซึ่งต่อมาโจทก์ทั้งสามสิบสี่ไม่เห็นด้วย   เมื่อพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์  พ.ศ.  ๒๕๑๘   มาตรา  ๙๘  (๑)   และมาตรา  ๑๐๓  (๒)   กำหนดไว้ว่าการดำเนินการของสหภาพแรงงานต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของสมาชิกสหภาพแรงงาน   ซึ่งการดำเนินกิจการอันอาจกระทบกระเทือนถึงส่วนได้เสียของสมาชิกเป็นส่วนรวมจะกระทำได้ก็แต่โดยมติที่ประชุมใหญ่การที่สหภาพแรงงานนิวโจโฮคุโดยประธานและกรรมการสหภาพแรงงานไปเจรจาทำความตกลงกับจำเลยเมื่อวันที่ ๖  เมษายน  ๒๕๕๕  แล้วยินยอมให้จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างปรับขึ้นค่าจ้างโดยแบ่งทยอยปรับขึ้นเป็น  ๓  ช่วง   มิได้ปรับขึ้นในคราวเดียวกัน   ตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงที่  ๗  กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙  นั้น  ถือไม่ได้ว่าเป็นประโยชน์แก่สมาชิก แต่กระทบกระเทือนถึงส่วนได้เสียของสมาชิกเป็นส่วนรวม เมื่อไม่ปรากฏว่าสหภาพ แรงงานกระทำการไปโดยมติที่ประชุมใหญ่จึงเป็นการกระทำไปโดยไม่มีอำนาจฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายดังกล่าว  ทั้งมิใช่กรณีที่จำเลยได้แจ้งข้อเรียกร้องต่อลูกจ้างและดำเนินการตามขั้นตอนจนมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับใหม่ดังที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์  พ.ศ.  ๒๕๑๘  มาตรา  ๑๓  ถึงมาตรา  ๑๙  แต่อย่างใด การที่จำเลยทยอยปรับขึ้นค่าจ้างให้โจทก์ทั้งสามสิบสี่ตามข้อตกลงฉบับลงวันที่  ๖  เมษายน  ๒๕๕๕  ทำให้โจทก์ทั้งสามสิบสี่ไม่ได้รับการปรับขึ้นค่าจ้างทันทีในคราวเดียว จึงเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่ขัดแย้งกับข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่เกิดจากข้อเรียกร้องที่มีผลใช้บังคับอยู่  และทำให้โจทก์ทั้งสามสิบสี่ได้รับการปรับขึ้นค่าจ้างเป็นจำนวนน้อยกว่าอัตราตามที่กำหนดในข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเดิมอันไม่เป็นคุณตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์  พ.ศ.  ๒๕๑๘  มาตรา  ๒๐  จึงไม่มีผลบังคับใช้จำเลยต้องถือตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเดิมที่เกิดจากข้อเรียกร้องและมีผลใช้บังคับอยู่ขณะนั้นคือฉบับลงวันที่  ๗  กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙  โดยต้องปรับขึ้นค่าจ้างเป็นจำนวนตามผลต่างของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเดิมคืออัตราวันละ  ๒๑๕  บาท  ตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง  เรื่อง  อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ  ( ฉบับที่  ๕ )  ลงวันที่  ๑๓  ธันวาคม  ๒๕๕๓  กับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่  คือ   อัตราวันละ  ๓๐๐  บาท   ตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง   เรื่องอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ  ( ฉบับที่  ๖ )  ลงวันที่  ๒  พฤศจิกายน   ๒๕๕๔   ซึ่งผลต่างเป็นจำนวนเงินวันละ  ๘๕  บาท  และต้องปรับค่าจ้างให้ตั้งแต่วันที่  ๑  เมษายน  ๒๕๕๕  เมื่อจำเลยได้ปรับขึ้นค่าจ้างให้แก่โจทก์ทั้งสามสิบสี่ตามข้อตกลงฉบับที่   ๖  เมษายน  ๒๕๕๕  ซึ่งเป็นจำนวนน้อยกว่าตามจำนวนอัตราที่ระบุในข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่  ๗  กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙  ดังนั้นจำเลยจึงต้องปรับขึ้นค่าจ้างให้โจทก์ทั้งสามสิบสี่เพิ่มจากที่ได้รับการปรับขึ้นไปแล้วตามจำนวนที่ยังขาดอยู่ตามที่ระบุในข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่  ๗  กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙  ตั้งแต่วันที่  ๑  เมษายน  ๒๕๕๕  ถึงวันที่  ๑  เมษายน  ๒๕๕๖  ตามคำขอของโจทก์แต่ละคน   ดังนั้นโจทก์ทั้งสามสิบสี่จึงมีสิทธิได้รับเงินที่จะปรับขึ้นค่าจ้างดังกล่าว  ทั้งนี้หากจำเลยจ่ายเงินที่จะปรับขึ้นค่าจ้างในช่วงดังกล่าวตามข้อตกลงฉบับลงวันที่  ๖  เมษายน  ๒๕๕๕  ให้โจทก์ทั้งสามสิบสี่ไปแล้วบางส่วนเท่าใด   ก็ให้นำมาหักออกเท่านั้น   ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษามานั้น   ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย   อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสามสินสี่ฟังขึ้น

 

                                      อนึ่ง  สำหรับที่โจทก์ทั้งสามสิบสี่ขอดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดอัตราร้อยละ  ๑๕  ต่อปี  นับแต่วันผิดนัดนั้น  เห็นว่า   เงินที่โจทก์ทั้งสามสิบสี่มีสิทธิที่จะได้รับอันเนื่องมาจากการปรับอัตราค่าจ้างเพิ่มตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง   เงินดังกล่าวยังไม่มีสภาพเป็นค่าจ้างจึงมิใช่ค่าจ้างที่จะมีสิทธิคิดดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดอัตราร้อยละ  ๑๕  ต่อปี  ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน  พ.ศ.  ๒๕๔๑  มาตรา  ๙  วรรคหนึ่ง  แต่เป็นหนี้เงินที่คิดดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดได้ในอัตราร้อยละ  ๗.๕  ต่อปี   ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์   มาตรา  ๒๒๔  วรรคหนึ่ง   เท่านั้น   และเมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์แต่ละคนทวงถามให้จำเลยจ่ายเงินที่จะได้จากการปรับอัตราค่าจ้างส่วนที่ขาดวันใด  จึงต้องถือว่าจำเลยผิดนัดนับแต่วันฟ้องของโจทก์แต่ละคน   ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน   แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์  ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นมาวินิจฉัยเองได้  ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง  มาตรา  ๑๔๒  (๕)    และมาตรา  ๒๔๖  ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน  พ.ศ.  ๒๕๒๒  มาตรา  ๓๑

 

                                 พิพากษากลับ  ให้จำเลยจ่ายเงินที่จะปรับขึ้นค่าจ้างในอัตราวันละ  ๘๕  บาท  นับตั้งแต่วันที่  ๑  เมษายน  ๒๕๕๕  ถึงวันที่  ๑  เมษายน  ๒๕๕๖  แก่โจทก์ทั้งสามสิบสี่หากจำเลยจ่ายเงินที่จะปรับขึ้นค่าจ้างในช่วงเวลาดังกล่าวให้ไปแล้วบางส่วนเท่าใดก็ให้นำมาหักออกเท่านั้น  แล้วจ่ายส่วนที่ขาดแก่โจทก์แต่ละคน  พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  ๗.๕  ต่อปี   นับแต่วันฟ้อง  ( วันที่  ๒  พฤษภาคม  ๒๕๕๖ )   เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสามสิบสี่

                 

เรียบเรียงโดย บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด




อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างขอค่าชดเชย นายจ้างไม่คุยด้วย แต่ยังไม่ได้บอกเลิกจ้างและยังไม่ปรากฎว่านายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างและไม่ให้เข้าทำงานต่อ ยังไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้าง ( อย่าเข้าใจไปเอง ) ไม่มีสิทธิได้ค่าชดเชย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com