ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article

คำพิพากษาฎีกาที่    ๑๓๙๔๐/๕๗
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย  เลิกจ้างได้  ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม


                                           โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า  จำเลยที่  ๑  เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด  มีนางสาวจิรดา  จิตรทาน  เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของจำเลยที่  ๑  มีผลผูกพันจำเลยที่  ๑  ได้  จำเลยที่  ๒  เป็นกรรมการผู้มีอำนาจของจำเลยที่  ๑  และจำเลยที่  ๓  เป็นประธานกรรมการของจำเลยที่  ๑  ขณะเลิกจ้างโจทก์  เมื่อวันที่  ๑๐  พฤศจิกายน  ๒๕๔๑  โจทก์เข้าทำงานเป็นลูกจ้างจำเลยที่  ๑  ตำแหน่งสุดท้ายเป็นตัวแทนฝ่ายบริหารและผู้จัดการฝ่ายผลิต  ประจำอยู่สำนักงานสาขาเลขที่  ๑๗๙  ซอยสุขุมวิท  ๖๒/๑  ถนนสุขุมวิท  แขวงบางจาก  เขตพระโขนง  กรุงเทพมหานคร  ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ  ๓๗,๖๒๐  บาท  เป็นเงินเดือน  ๒๙,๖๒๐ บาท  ค่าน้ำมัน  ๗,๐๐๐  บาท  ค่าอินเตอร์เน็ต  ๑,๐๐๐  บาท  กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันที่  ๑๕  และวันสุดท้ายของเดือนโจทก์ทำงานให้แก่จำเลยทั้งสามตามสัญญาจ้างแรงงานและตามคำสั่งของนายจ้างโดยถูกต้องและสุจริตไม่เคยกระทำผิดหรือมีความผิดใด  เมื่อวันที่  ๒๙  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๑  จำเลยทั้งสามมีคำสั่งที่  ๑/๒๕๕๑  เรื่องโยกย้ายพนักงานอ้างเหตุว่ามีนโยบายปิดทำการสาขาเลขที่ ๑๗๙ ดังกล่าวโอนย้ายโจทก์จากตำแหน่งเดิมไปดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายคลังสินค้าของจำเลยที่  ๑  ประจำสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่  ๕๒  หมู่ที่  ๑๒  ตำบลโพนงาม  อำเภอสรรคบุรี  จังหวัดชัยนาท  โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่  ๑๗  มีนาคม  ๒๕๕๑  เป็นต้นไป  โจทก์เห็นว่าการโอนย้ายตำแหน่งดังกล่าวเป็นการลดตำแหน่งและเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างโดยโจทก์ไม่ยินยอม  ทั้งยังมีผลกระทบสำคัญต่อการดำรงชีวิตตามปกติของโจทก์  โดยมีเจตนากลั่นแกล้งมิให้โจทก์ทำงานต่อไป  และจำเลยที่  ๑  มิได้ปิดสาขาจริง  ในวันที่  ๑๔  มีนาคม  ๒๕๕๑  โจทก์จึงมีหนังสือแจ้งความประสงค์ไม่ขอย้ายสถานที่ทำงานตามคำสั่งต่อมาในวันที่  ๒๐  มีนาคม  ๒๕๕๑  จำเลยทั้งสามออกคำสั่งที่  ๒/๒๕๕๑  เรื่องโยกย้ายพนักงานโดยอ้างเหตุตามคำสั่งที่  ๑/๒๕๕๑  โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่  ๒๔  มีนาคม  ๒๕๕๑  และในวันเดียวกันจำเลยทั้งสามได้ออกหนังสือเตือนอ้างว่าโจทก์กระทำการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยที่  ๑  หลีกเลี่ยงขัดขืนคำสั่งที่  ๑/๒๕๕๑  และคำสั่งที่  ๒/๒๕๕๑  ต่อมาในวันที่  ๒๔  มีนาคม  ๒๕๕๑  จำเลยทั้งสามมีคำสั่งที่  ๓/๒๕๕๑  เลิกจ้างโจทก์โดยไม่จ่ายค่าชดเชย  และสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าคงจะจ่ายให้เพียงค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีโดยอ้างเหตุว่าการกระทำผิดข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน  คำสั่งของจำเลยทั้งสามไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่เป็นธรรมแก่โจทก์  จำเลยทั้งสามหักค่าจ้างโจทก์เข้าโครงการกองทุนเงินสะสมในอัตราร้อยละหนึ่งของเงินเดือนและจำเลยทั้งสามจ่ายสมทบเท่ากับที่หักค่าจ้างโจทก์ไว้  เมื่อจำเลยทั้งสามเลิกจ้างโจทก์  จำเลยทั้งสามจึงต้องจ่ายเงินสะสมแก่โจทก์  ๒๓,๐๘๘  บาท  จำเลยทั้งสามไม่ได้จัดให้โจทก์หยุดพักผ่อนประจำปีอีก  ๑๔  วัน  จำเลยทั้งสามต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีแก่โจทก์เป็นเงิน  ๑๗,๕๕๖  บาท  จำเลยทั้งสามต้องออกใบสำคัญแสดงการทำงานแก่โจทก์ด้วย  ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีจำนวน  ๑๗,๕๕๖  บาท  สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า  จำนวน  ๓๗,๖๒๐  บาท  ค่าชดเชย  จำนวน  ๓๐๐,๙๖๐  บาท  ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม  จำนวน  ๒,๒๕๗,๒๐๐  บาท  และเงินสะสมโครงการกองทุนเงินสะสม  จำนวน  ๒๓,๐๘๘  บาท  พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  ๗.๕  ต่อปี  นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์กับให้จำเลยทั้งสามออกใบสำคัญแสดงการทำงานให้แก่โจทก์

 
                                         จำเลยที่  ๑  ให้การว่า  เนื่องจากกิจการของจำเลยที่  ๑  เป็นธุรกิจอุตสาหกรรมมีที่ทำการหลายแห่งรวมทั้งสำนักงานใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดชัยนาท การผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนบุคลากรจึงเป็นการบริหารตามปกติของจำเลยที่  ๑  โจทก์ทราบเงื่อนไขดังกล่าวซึ่งมีระบุไว้ในสัญญาจ้างแรงงานเป็นอย่างดี  การออกคำสั่งโยกย้ายโจทก์มิใช่การกลั่นแกล้งหรือเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างโดยไม่เป็นธรรมหรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่โจทก์แต่ประการใด  โจทก์เคยไปทำงานที่จังหวัดชัยนาทโดยได้รับเบี้ยเลี้ยง  ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและมีบ้านพักประจำตำแหน่ง  เมื่อจำเลยที่  ๑  ออกคำสั่งโดยชอบแล้ว  การที่โจทก์ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้มีการตักเตือนแล้ว  จำเลยที่  ๑  จึงไม่ต้องรับผิดจ่ายเงินตามฟ้อง  สำหรับค่าจ้างในวันหยุดพักผ่อนประจำปีนั้น  เนื่องจากโจทก์ผิดสัญญาจ้างแรงงานและถูกเลิกจ้าง  จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างสำหรับวันหยุดดังกล่าว  ขอให้ยกฟ้อง
 

                                        ระหว่างพิจารณาโจทก์แถลงขอถอนฟ้องจำเลยที่  ๒  และที่  ๓  ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตให้จำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่  ๒  และที่  ๓  ออกจากสารบบความ

 
                                        ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยที่  ๑  จ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี  จำนวน  ๑๗,๕๕๖  บาท  ค่าชดเชย  จำนวน  ๓๐๐,๙๖๐  บาท  และเงินสะสมโครงการกองทุนเงินสะสม  จำนวน  ๒๓,๐๘๘  บาท  พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  ๗.๕  ต่อปี  ของเงินแต่ละจำนวนดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง  (ฟ้องวันที่  ๔  เมษายน  ๒๕๕๑)  เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น
 

                                           โจทก์และจำเลยที่  ๑  อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 

                                       ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว  ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติว่า  เมื่อวันที่  ๑๑  พฤศจิกายน  ๒๕๔๑  โจทก์เข้าสมัครงานกับบริษัทซี.  เอส. อินเตอร์เนชั่นแนล  อีเล็คโทรนิคส์  จำกัด  และในวันเดียวกันบริษัทดังกล่าวและบริษัทเซฟ - ที - คัท  (ประเทศไทย)  จำกัด ตกลงว่าจ้างโจทก์เข้าทำงานเป็นลูกจ้างในฝ่ายขายตำแหน่งเจ้าหน้าที่เซฟ- ที - คัท เซอร์วิส  เซ็นเตอร์  โดยมีการทำสัญญาจ้างแรงงานและใบรายงานตัวพนักงานใหม่เอกสารหมาย  ล.๓  และ  ล.๔  ต่อมาเมื่อวันที่  ๒  เมษายน  ๒๕๔๒  บริษัทเซฟ - ที - คัท  (ประเทศไทย)  จำกัด  มีคำสั่งโอนย้ายโจทก์ให้มาทำงานกับจำเลยที่  ๑  ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายผลิตและขายตามคำสั่งที่  ๑/๒๕๔๒  เอกสารหมาย  ล.๕  และเมื่อวันที่  ๑  ธันวาคม  ๒๕๔๔  จำเลยที่  ๑  แต่งตั้งโจทก์ให้ดำรงตำแหน่งตัวแทนฝ่ายบริหาร  (QRM)  ตามประกาศเอกสารหมาย  ล.๖  จำเลยที่  ๑  มีข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานตามเอกสารหมาย  ล.๗  ขณะที่โจทก์เริ่มเข้าทำงานกับจำเลยที่  ๑  จำเลยที่  ๑  มีที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่เลขที่  ๑๗๙  ซอยสุขุมวิท  ๖๒/๑  ถนนสุขุมวิท  แขวงบางจาก  เขตพระโขนง  กรุงเทพมหานคร  ตามหนังสือรับรองเอกสารหมาย  ล.๑๓  เมื่อวันที่  ๒๙  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๑  จำเลยที่  ๑  มีคำสั่งโอนย้ายโจทก์ไปปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนฝ่ายบริหารและผู้จัดการฝ่ายผลิตประจำสำนักงานเลขที่  ๕๒  หมู่  ๑๒  ตำบลโพงาม  อำเภอสรรคบุรี  จังหวัดชัยนาท  โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่  ๑๗  มีนาคม  ๒๕๕๑  ตามคำสั่งที่  ๑/๒๕๕๑  เอกสารหมาย  จ.๒  ภายหลังได้รับเอกสารดังกล่าวโจทก์ได้มีหนังสือแจ้งความประสงค์ไม่ขอย้ายสถานที่ทำงานตามเอกสารหมาย  จ.๓ จากนั้นในวันที่  ๒๐  มีนาคม  ๒๕๕๑  จำเลยที่  ๑ ออกคำสั่งให้โจทก์ไปปฏิบัติงานที่สำนักงานจังหวัดชัยนาทอีกครั้งตามคำสั่งที่  ๒/๒๕๕๑  โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่  ๒๔  มีนาคม  ๒๕๕๑  ตามเอกสารหมาย  จ.๔  และในวันเดียวกันจำเลยที่  ๑  ได้ออกหนังสือตักเตือนกล่าวหาว่าโจทก์ฝ่าฝืนคำสั่งและระเบียบข้อบังคับของจำเลยที่  ๑  ที่ชอบด้วยกฎหมายตามเอกสารหมาย  จ.๕  ต่อมาในวันที่  ๒๔  มีนาคม  ๒๕๕๑  จำเลยที่  ๑  มีคำสั่งเลิกจ้างโจทก์ตามคำสั่งที่  ๓/๒๕๕๑ เอกสารหมาย จ.๖ แล้ววินิจฉัยว่าการจ้างงานโดยทั่วไปแล้วนายจ้างย่อมมีอำนาจในการบริหารจัดการองค์กรรวมทั้งด้านทรัพยากรมนุษย์ การจัดเรียงบุคลากรให้เหมาะสมกับงาน ตลอดจนการโยกย้ายตำแหน่งหน้าที่ของบุคลากรจึงเป็นเรื่องที่นายจ้างสามารถกระทำได้ แต่ทั้งนี้ การออกคำสั่งเพื่อโยกย้ายตำแหน่งหน้าที่ของบุคลากรนั้นต้องไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งสภาพการจ้างของลูกจ้างให้ลดน้อยลง และต้องเป็นไปโดยสุจริตไม่มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งหรือเลือกปฏิบัติต่อลูกจ้าง การโยกย้ายตำแหน่งหน้าที่การทำงานของโจทก์จากเดิมที่เคยดำรงตำแหน่งตัวแทนฝ่ายบริหารและผู้จัดการฝ่ายการตลาดมาดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายวางแผนและคลังสินค้าถือเป็นฝ่ายบริหารเช่นเดียวกัน ทั้งมีผู้ใต้บังคับบัญชาที่จะต้องควบคุมรับผิดชอบเช่นกัน  กรณีจึงไม่อาจถือได้ว่าจำเลยที่  ๑  ลดตำแหน่งหน้าที่การงานของโจทก์  และตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยที่  ๑  ตามเอกสารหมาย  ล.๗  กำหนดให้พนักงานมีวันทำงานสัปดาห์ละ  ๖  วัน  คือ  วันจันทร์ถึงวันเสาร์  การที่โจทก์ทำงานให้แก่จำเลยที่  ๑  ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ตลอดมาจึงเป็นเรื่องที่จำเลยที่  ๑  ซึ่งเป็นนายจ้างให้ประโยชน์แก่โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างโดยให้ทำงานน้อยกว่าวันทำงานที่กำหนดไว้ในข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานตามเอกสารหมาย  ล.๗  การที่จำเลยที่  ๑  จะโอนย้ายโจทก์ไปทำงานโดยให้โจทก์ทำงานในวันเสาร์อีกวันหนึ่งด้วยเพื่อให้เต็มตามสภาพการจ้างที่กำหนดไว้ในข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานย่อมกระทำได้  โดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมใดๆ  จากโจทก์  อีกทั้งการโอนย้ายโจทก์ได้รับค่าจ้าง  หรือสวัสดิการหรือตำแหน่งงานไม่ต่ำกว่าเดิม  กรณีจึงไม่อาจถือได้ว่าการออกคำสั่ง  โอนย้ายโจทก์ของจำเลยที่  ๑ ทำให้สภาพการจ้างของโจทก์เปลี่ยนแปลงไปหรือเกิดจากการกลั่นแกล้งหรือเลือกปฏิบัติของจำเลยที่  ๑  จำเลยที่  ๑  เลิกจ้างโจทก์โดยนำเหตุที่โจทก์ขัดคำสั่งของจำเลยที่  ๑  ที่  ๑/๒๕๕๑  และที่  ๒/๒๕๕๑  มาเป็นเหตุแห่งการเลิกจ้างแต่เมื่อจำเลยที่  ๑  ได้ตักเตือนโจทก์เนื่องจากโจทก์ขัดคำสั่งที่  ๑/๒๕๕๑  ไปแล้ว  จึงเป็นการลงโทษทางวินัยเพราะการกระทำนั้นแล้ว จำเลยที่ ๑ ย่อมไม่อาจนำเหตุที่โจทก์ขัดคำสั่งที่  ๑/๒๕๕๑ มาลงโทษโจทก์โดยการเลิกจ้างอีกได้ การที่จำเลยที่  ๑  จะนำเหตุที่โจทก์ฝ่าฝืนคำสั่งที่  ๒/๒๕๕๑  มาเป็นเหตุเลิกจ้างโจทก์ได้  ก็ต้องเกิดจากการที่โจทก์ไม่ไปทำงานที่จังหวัดชัยนาทเมื่อพ้นวันที่  ๒๔  มีนาคม  ๒๕๕๑  ไปแล้ว  เมื่อจำเลยที่  ๑  ออกคำสั่งเลิกจ้างโจทก์ในวันที่  ๒๔  มีนาคม  ๒๕๕๑  จึงยังไม่พ้นระยะเวลาที่จำเลยที่  ๑  กำหนดไว้ในคำสั่งที่  ๒/๒๕๕๑  ตามเอกสารหมาย  จ.๔  กรณีจึงยังไม่อาจถือได้ว่าโจทก์กระทำความผิดโดยฝ่าฝืนคำสั่งที่  ๒/๒๕๕๑  ซึ่งจำเลยที่  ๑  จะนำมาเป็นเหตุที่ระบุไว้ในหนังสือเลิกจ้างโจทก์ได้  เมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของจำเลยที่  ๑  ที่  ๑/๒๕๕๑  ที่โอนย้ายโจทก์ไปดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายคลังสินค้าประจำสำนักงานใหญ่จังหวัดชัยนาทอันเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โจทก์เป็นถึงพนักงานฝ่ายบริหารของจำเลยที่  ๑  แต่กลับไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น  จำเลยที่  ๑  จึงเหตุสมควรที่จะเลิกจ้างโจทก์ได้  การเลิกจ้างโจทก์ของจำเลยที่  ๑  มิใช่การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
 

                                       คดีมีปัญหาตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า  จำเลยที่  ๑  เลิกจ้างโจทก์โดยต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่โดยโจทก์อุทธรณ์ว่า  การที่จำเลยที่  ๑  โยกย้ายโจทก์ไปทำงานที่จังหวัดชัยนาทเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง  เนื่องจากทำให้โจทก์ต้องทำงานในวันเสาร์เพิ่มอีก  ๑  วัน  ในแต่ละสัปดาห์  ทั้งเป็นการเพิ่มภาระด้านเวลาในการเดินทางและค่าใช้จ่าย  อีกทั้งตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานตามเอกสารหมาย  ล.๗  ไม่มีข้อตกลงเกี่ยวกับการโอนย้ายโจทก์ไปทำงานยังสถานที่อื่นได้  ดังนั้นโจทก์จึงมีสิทธิไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง  และเมื่อจำเลยที่  ๑  เลิกจ้างโจทก์จึงเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมนั้น  เห็นว่า  การที่จำเลยโยกย้ายโจทก์ไปทำงานที่จังหวัดชัยนาทนั้น  เป็นการย้ายโจทก์จากตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายผลิตไปดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายคลังสินค้าซึ่งเป็นตำแหน่งผู้บริหารระดับเดียวกัน แม้โจทก์จะต้องเปลี่ยนสถานที่ทำงานจากกรุงเทพมหานครไปทำงานที่จังหวัดชัยนาทและต้องทำงานเพิ่มในวันเสาร์เป็นหกวันทำงาน  แตกต่างจากตำแหน่งเดิมของโจทก์ที่ทำงานเพียงห้าวันทำงานก็ตาม  แต่เมื่อพิจารณาข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานเอกสารหมาย ล.๗ ซึ่งกำหนดให้โจทก์ต้องทำงานสัปดาห์ละหกวันทำงาน  และจำเลยที่  ๑  ซึ่งเป็นนายจ้างมีอำนาจโอนย้ายโจทก์ไปทำงานในสถานที่ทำงานอื่นได้  ตามสัญญาจ้างแรงงานเอกสารหมาย  ล.๓  ดังนั้น  จำเลยที่  ๑  ซึ่งเป็นนายจ้างจึงมีอำนาจโยกย้ายโจทก์ไปทำงานที่สำนักงานใหญ่จังหวัดชัยนาทได้โดยไม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างของโจทก์  เมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งโยกย้ายของจำเลยจึงเป็นการขัดคำสั่งจำเลยที่  ๑  ซึ่งเป็นนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายถือเป็นการไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา  ๕๘๓  และเป็นการเลิกจ้างที่มีเหตุอันสมควรแล้วไม่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม  อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

 
                                        คดีมีปัญหาตามอุทธรณ์ของจำเลยที่  ๑  ว่า  จำเลยที่  ๑  เลิกจ้างโจทก์โดยต้องจ่ายค่าชดเชย  ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี  เงินสะสมแก่โจทก์หรือไม่โดยจำเลยที่  ๑  อุทธรณ์ในทำนองว่าการที่โจทก์ปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามคำสั่งโยกย้ายของจำเลยที่  ๑  ทำให้การบริหารกิจการของจำเลยที่  ๑  ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้  การขัดคำสั่งของโจทก์จึงเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของจำเลยที่  ๑  เป็นกรณีร้ายแรงนั้น  เห็นว่า  แม้นายจ้างจะมีอำนาจบริหารที่จะแต่งตั้งโยกย้ายลูกจ้างให้ทำงานเหมาะสมกับกิจการของนายจ้างได้และการฝ่าฝืนคำสั่งของนายจ้างจะเป็นความผิดของลูกจ้างก็ตาม แต่การฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าวจะเป็นกรณีร้ายแรงหรือไม่นั้นจะต้องพิจารณาข้อเท็จจริงของพฤติการณ์แห่งคดีแต่ละกรณีไปเมื่อคดีนี้จำเลยที่  ๑  ออกคำสั่งย้ายโจทก์เพื่อไปดูแลคลังสินค้าซึ่งไม่มีผู้บริหารไปวางแผนดูแลแต่การโอนย้ายเป็นการย้ายจากกรุงเทพมหา นครไปยังจังหวัดชัยนาท ทั้งเหตุการณ์โอนย้ายก็ไม่ใช่กรณีเร่งด่วนเนื่องจากจำเลยได้ให้เวลาโจทก์ตั้งแต่วันที่  ๑๗  มีนาคม  ๒๕๕๑  จนถึงวันที่  ๒๔  มีนาคม  ๒๕๕๑  จึงเลิกจ้างโจทก์  จึงแสดงว่า  คำสั่งของจำเลยที่  ๑  มิใช่กรณีเร่งด่วนและจำเป็น การที่โจทก์ปฏิเสธคำสั่งดังกล่าวจึงมิใช่การฝ่าฝืนคำสั่งของนายจ้างในกรณีร้ายแรง  ที่ศาลแรงงานกลางให้จำเลยที่  ๑  จ่ายค่าชดเชย  ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีและเงินสะสมนั้น  ชอบแล้ว  อุทธรณ์ของจำเลยที่  ๑  ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน
 
 
                                         พิพากษายืน.


        เรียบเรียงโดย บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

 




อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างขอค่าชดเชย นายจ้างไม่คุยด้วย แต่ยังไม่ได้บอกเลิกจ้างและยังไม่ปรากฎว่านายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างและไม่ให้เข้าทำงานต่อ ยังไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้าง ( อย่าเข้าใจไปเอง ) ไม่มีสิทธิได้ค่าชดเชย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com