สวัสดีครับทุกๆท่าน พอดีผมมีเรื่องร้อนใจนะรบกวนทุกท่านที่มีความรู้ด้านกฎหมายช่วยชี้แนะด้วยครับ เรื่องมีอยู่ว่าผมทำงานอยู่ที่บริษัทA (ยังคงทำงานอยู่) แต่ผมได้หางานใหม่และได้งานใหม่กับบริษัทB ซึ่งหลังจากนั้นผมได้เซ็นต์สัญญากับบริษัทB และได้เขียนใบลาออกโดยได้มีการพูดคุยเรื่องงานใหม่ของผมกับผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบุคคลเนื่องจากหัวหน้างานของผมไม่อยู่ ซึ่งได้มีการพูดคุยกันในวันที่ 16 พ.ค. 2555 ซึ่งผมจำเป็นต้องไปเริ่มงานใหม่ในวันที่ 14 มิ.ย. 2555 ซึ่งครบกำหนด 30 วันพอดี แต่ว่าหลังจากผมได้คุยกับหัวหน้างานแล้ว และได้มีการ เสนอปรับตำแหน่งให้ โดยผมขอเอาไปคิดก่อน โดยที่ไม่มีเอกสารยืนยันว่าจะมีการปรับตำแหน่งให้ ซึ่งหลังจากนั้นผมไม่รับข้อเสนอเลยเขียนใบลาออกลงวันที่ 20 พ.ค. 2555 และระบุวันลาออกเป็น 13 มิ.ย. 2555 วันสุดท้ายของการทำงาน แต่หลังจากนั้นวันที่ 24 พ.ค. 2555 ผมได้มีการพูดคุยกับหัวหน้างานโดยถ้าหากมีการยื่นข้อเสนอมาใหม่ผมก็พร้อมจะพิจารณาเพราะผูกพันกับการทำงานที่นี่ โดยได้ส่งข้อความให้หัวหน้างานว่าอาจส่งรายละเอียดข้อเสนอใหม่มาทางเมล์ก็ได้ แต่พอดีหัวหน้างานก็โทรมาแทนเลยไม่มีหลักฐานสำหรับข้อเสนอใหม่ที่ยื่นมาให้ผม ซึ่งผมได้พูดคุยและบอกกับหัวหน้างานว่าขอตัดสินใจและปรึกษาครอบครัวโดยจะให้คำตอบวันจันทร์ ซึ่งพอถึงวันจันทร์ที่ 28 พ.ค. 2555 ผมก็ได้ให้คำตอบตกลงยอมรับข้อเสนออยู่ทำงานที่นี่โดยได้เงินเดือนเพิ่ม ได้เลื่อนตำแหน่งใหม่ และผมได้ทำการส่งเมล์ไปขอยกเลิกงานใหม่ที่ได้เซ็นต์สัญญาแล้ว แต่หลังจากนั้น วันเดียวกันเวลาประมาณบ่ายโมง หัวหน้างานได้แจ้งผมว่า ผู้บริหารไม่อนุมัติทั้ง ๆ ที่หัวหน้างานผมไม่มีอำนาจใจการตัดสินใจจะมาเสนอเงื่อนไขใหม่ให้ผมได้อย่างไร ซึ่งหัวหน้างานก็ยอมรับว่าได้มีการตกลงกับผู้บริหารท่านนี้แล้วถึงได้โทรมาแจ้งผม และในวันเดียวกันเวลาประมาณ 15.00 น. หัวหน้างานได้เรียกผมไปคุยกับผู้จัดการฝ่ายบุคคล โดยผู้จัดการฝ่ายบุคคลแจ้งผมว่า ผมไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากไม่มีหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ เป็นเพียงแค่คำพูด ไม่มีหลักฐานเป็นเอกสาร และที่สำคัญผมได้ลาออกจากบริษัทนี้โดยการเขียนใบลาออกเอง ซึ่งผมไม่ได้อะไรตอบแทนเลยจากกรณีนี้

ฉะนั้นรบกวนแนะนำด้วยครับว่าผมสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายใด ๆ ได้หรือไม่จากบริษัท A เพราะถ้าผมไม่ตอบรับข้อเสนอที่นี่ผมจะส่งเมล์ไปยกเลิกบริษัท B เพื่ออะไร และถึงแม้ไม่มีเอกสารยืนยันแต่มีพยานบุคคล และมีข้อมูลเบอร์โทรเข้าของหัวหน้างานผม ซึ่งดังนั้นหลักฐานดังกล่าวข้างต้นนี้เพียงพอหรือไม่ อย่างไร แต่ในทางกลับกันอีกทางหนึ่งผมเองก็กังวลอยู่ว่า พยานบุคคลซึ่งคือหัวหน้างานผมคงไม่เป็นพยานถึงถ้อยคำที่ได้กล่าวไว้ในการยื่นข้อเสนอครั้งที่2 เจ็บใจจริงครับ เพราะงานใหม่ได้ผลตอบแทนมากกว่าเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ผมก็สงสารและเห็นใจบริษัท ยังไงรบกวนผุ้มีความรู้ช่วยกรุณาผมด้วยครับ จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง