เรื่องมีอยู่ว่าข้าฯทำงานอยู่บริษัทลิฟต์และบันไดเลื่อนแห่งหนึ่งบริษัทให้บริการตรวจเช็คซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่

ในวันที่ 14 มี.ค.56 ตอนเช้าข้าฯเข้าประชุมทุกเช้ามีการจ่ายงานให้ข้าฯได้รับคำสั่งให้ไปทำงานที่อ่อนนุช

ในระหว่าวการเดินทางผู้ร่วมงานโทรบอกว่าเปลี่ยนงานให้ไปคอนโดแห่งหนึ่งต้องไปตรวจเช็ค เพื่อนร่วมงานอ้างว่านายจ้างสั่งมาซึ่งผู้ร่วมงานจะไปด้วยและเสร็จจากที่ดังกล่าวจะไปด้วยกันในระหว่างการทำงานก็มีโทรศัพท์จากบริษัทบอกว่าให้ข้าฯนั่รถตู้ไปช่วยซ่อมที่แหลมฉบังเนื่องจากช่างที่อยู่ประจำโซนพัทยาทำไม่ได้ ข้าฯปฎิเสธไปว่า

ถ้าจะไปต้องไปสองคนต้องมีคนขับรถให้ด้วยหลังจากนั้นข้าพเจ้าก็วางสายโทรศัพท์และทำการตรวจเช็คตามงานที่ได้รับและได้ไปทำงานต่อที่ออ่นนุชจนเลิกงาน ตอนเช้าวันที่ 15 มี.ค.56 ข้าฯเข้าประชุมตอน 8.10-ช่างบอกให้โทรไปเครียร์เองแต่ข้าฯปฎิเสธว่าไม่ใช่หน้าที่ ถ้าให้ไปคนเดียวข้าฯขอลา ข้าฯก็เดินไปอีกห้องไปบอกฝ่ายบุคคลว่าถ้าจะให้ไปแหลมฉบังคนเดียวไม่ไป ถ้าให้ไปคนเดียวขอลา ฝ่ายบุคคลก็บอกแบบเดียวกับหั8.50น.นายจ้างโทรมาบอกหัวหน้าช่างว่าให้ข้าฯนั่งรถตู้ไปแต่ข้าฯประเสธว่าไม่ไปถ้าให้ไปต้องไป 2คนหัววหน้าช่างว่าให้โทรเคลียร์กับนายจ้างเองข้าฯก็ไม่โทร ข้าฯก็ลงไปรอข้างล่างประมาณ 9.30น.ไม่เห็นอะไรเปลี่ยนแปลงข้าฯจึงกลับบ้าน หลังจากนั้นข้าฯโทรหาเพื่อนที่ประจำพัทยาว่าใครมาเขาบอกว่า หัวหน้าโซนและหัวหน้าแผนกขับรถมาพัทยา ข้าฯได้ยินดังนั้นเสียใจมากที่บริษัทไม่เคยเห็นความสำคัญของ ข้าฯเลย ทีคนอื่นไปให้ไป 2 คน

วันที่ 16 มี.ค.56ฝากเพื่อนมาลางานว่าลากิจ 1 วัน

วันที่ 17 มี.ค.56 วันหยุดประจำ (อาทิตย์)

วันที่ 18 มี.ค. 56 มาตรอกบัตร เข้าประชุม และได้รับคำสั่งให้ไปช่วยทำงานที่ คอนโดแห่งหนึ่งหลังจากนั้นลงมารอเพื่อนร่วมงาน ประมาณ 9.00 กำลังจะออกไปข้างนอกหัวหน้าช่างก็เปลี่ยนงานให้เพื่อนข้าฯไปกับคนอื่นส่วนข้าฯนายจ้างให้มาบอกว่าให้ออกจากงานทันที พอข้าพเจ้ารู้ดังนั้นก็ขึ้นไปคุยกับฝ่ายบุคคลว่าให้ออกด้วยสาเหตุอะไรฝ่ายบุคคลไม่รู้ ข้าฯเอยปากว่าถ้าจะให้ออกต้องมีเอกสารยืนยันว่าผิดอะไร ฝ่ายบุคคลบอกจะทำให้บอกให้รอ ข้าฯเห็นว่าไม่ได้ทำงานแล้วจึงเดินทางไปปรึกษาเพื่อนและกลับเข้ามาตอน 14.30 น. เอาเอกสารที่ยืนยันว่าให้ออกงานไปแล้วกับทางบริษัท ฝ่ายบุคคลบอกให้รอ และฝ่ายบุคคลบอกให้ข้าพเจ้าเซ็นต์ใบลาออก ข้าพเจ้า

ปฎิเสธไม่เซ็นเนื่องจากข้าฯไม่ยินยอมที่จะออก ฝ่ายบุคคลบอกมันยุ่งยาก ข้าฯบอกว่ามันยุ่งยากสำหรับพี่แต่ไม่ยุ่งยากสำหรับผม หลังจากนั้นฝ่ายบุคคลบอกว่าให้รอคนทำบัญชีบริษัท(บริษัทรับจ้างทำบญชี)จะแฟ็คเอกสารมาให้ถ้าเส็ดจะโทรไปบอก ข้าฯรออยู่ข้างล่างจนเลิกงาน

วันที่ 19 มี.ค. มาตรอกบัตรและเข้าประชุมบริษัทไม่จ่ายงานให้ ข้าฯก็ไปทวงถามกับฝ่ายบุคคลว่าเสร็จยังเอกสารเขาบอกว่ารอคนที่ทำบัญชีส่งเอกสารมา ข้าฯไปรอข้างล่าง หลังจากนั้นหัวหน้าช่างก็เดนลงมาบอกว่า

จะรับเข้าทำงานเหมือนเดิมและจะออกใบเตือนให้ ข้าฯบอกว่าไล่ผมออกแล้วนิจะมารับผมเข้าทำไมและอีกอย่างตอนนี้ผมก็ยังเป็นพนักงานอยู่ไม่จำเป็นต้องมารับเข้าทำงาน ส่วนใบเตือนจะให้เซ็นต์ก็ปริ้นมา ผมก็ขึ้นไปบนห้องฝ่ายบุคคล ถามเอาเอกสารบอกผมว่าไม่เสร็จ ผมก็บอกว่าไม่ตามแล่้วให้กรมแรงงานตามเองเขาบอกว่าเชิญตามสบาย ผมได้ยินดังนั้นเลยไปหากรมแรงงานที่ดินแดงเขาไม่รับร้องเรียนแต่ให้คำปรึกษาว่า มีการเลิกจ้างเกิดขึ้นยังแล้วหรือยัง ข้าฯตอบยัง ดังนั้นให้กลับไปทำงานจนกว่าจะมีการเลิกจ้างเกิดขึ้น ข้าฯได้ยินดังนั้นจึงปฎิบัติตาม

วันที่ 20 มี.ค.56 บัตรตอกไม่อยู่ข้าฯไม่ได้ตอกเข้าประชุมปกติบริษัทไม่จ่ายงานให้ ข้าฯไปนั่งอยู่ข้างล่างจนเลิกงาน

วันที่ 21 มี.ค.56 ไปตอกบัตรปกติเข้าประชุ่มและไม่มีการจ่ายงานให้ข้าฯ ข้าฯนั่งอยู่ข้างล่างจนเลิกงาน

วันที่ 22 มี.ค.56 ไปตอกบัตรปกติบัตรไม่อยู่ตั้งแต่ 20-22 มี.ค.56 เข้าประชุม หลังจากนั้นหัวหน้าข้าพเจ้าก็เอาหนังสือมาติดเป็นหนังสือให้ออกเนื่องจากกระทำความผิด มีเนื้อหาดังนี้

เรื่องให้ออกเนื่องจากกระทำความผิด

อันเนื่องจากบริษัท.......ขอแจ้งให้ทราบว่านาย สมมุติ เรื่องจริง ให้พ้นสภาพการเป็นพนักงานของบริษัทฯซึ่งมีผลตั้งแต่ 18 มี.ค.56 เป็นต้นไป เหตุผลเนื่องจาก ไม่ปฎิบัติตามคำสั่งที่มอบหมายให้ในวันที่ 15 มี.ค.56 และได้ออกบริษัททันทีพร้อมทั้งวันที่ 16 มี.ค. 56 ไม่ได้มาทำงานโดยที่ไม่ได้แจ้งให้ทางบริษัทฯทราบ

ตามเนื้อหาข้างบนนี้กระผมจะสามารถฟ้องเรียกเงินชดเชยได้ไหมบครั