อย่างที่แนะนำไปแหละครับ

       ผิดก็ยอมรับ  ถึงชั้นศาลก็ยังเจรจาได้ หากไม่มีเงินก้อนชำระ  ขอผ่อนชำระ  ศาลก็ยังให้โอกาสครับ

ส่วนโจทก์(ผู้เสียหาย) จะตกลงด้วยหรือไม่  ขึ้นอยู่กับการเจรจาที่ศาล 

      แนะนำว่า  หากเจรจากันเองไม่ได้   ยังสามารถเจรจาในชั้นพิจารณาคดีที่ศาลได้  ส่วนใหญ่หากจำเลย

มีเจตนาชำระหนี้ไม่หลบหนี   ศาลยังให้โอกาสครับ  

      ที่บอกว่าทนายแนะนำ  ว่าการแจ้งความกลับ  สู้ไม่ได้  เพราะเงินนั้น   อยากทราบทนายสำนักไหนครับ

น่าจะแนะนำข้อกฎหมาย   ไม่ใช่แนะนำให้เกรงกลัวอิทธิพลมืด  อิทธิพลของเงิน ของคน

      ถ้ามีพยานหลักฐานว่า เขาทำผิดจริงอย่างที่ให้ข้อมูล  คงไม่ต้องเกรงกลัวอะไร   

บ้านเมืองมีกฎ มีระเบียบ  กฎหมายมีไว้บังคับใช้    หากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในทางคดี

สามารถร้องเรียนได้   ขอความช่วยเหลือได้ในหลายช่องทาง   เช่น สภาทนายความ   มูลนิธิต่าง ๆ ที่ให้ความช่วยเหลือ

กระทรวงแรงงานก็มีหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ  หรือสื่อมวลชนก็สามารถเป็นกระบอกเสียงได้ 

      เมื่อคุณทำผิด  คุณยอมรับ  และพร้อมที่จะชดใช้  อาจจะมีวิธีการชดใช้ในหลายรูปแบบ เช่น ผ่อนชำระ  เอาทรัพย์สินตีราคา

ชดใช้  เป็นต้น   ถือว่าคุณทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว    แล้วทำไมเมื่อเราถูกละเมิดสิทธิ  ถูกกระทำบ้าง  ถึงไม่กล้าดำเนินการอะไร

แล้วเราจะเอาอะไรไปต่อรองหรือเรียกร้องความเป็นธรรมบ้าง   หากเกรงกลัวอิทธิพล  จะได้รับความยุติธรรมได้อย่างไร

       แนะนำว่า  หากเจรจาแล้วไม่ได้ผล  ก็ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการ  ไปเจรจาชั้นศาลได้

       สิ่งที่ผู้เสียหายทำได้  คือ  แจ้งความดำเนินคดี  ไม่ใช่ใช้อิทธิพลเถื่อนบังคับเอากับเรา  

       กรณีผู้ค้ำประกัน   สิทธิของผู้เสียหาย  คือ  ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ค้ำ  ในฐานะผู้ค้ำประกัน  ไปทำอย่างอื่น

ที่ละเมิดสิทธิหรือเกินกว่านี้ไม่ได้หรอกครับ  

       จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่จะพิจารณาครับ   หรือจะเชื่อคำแนะนำของทนายคนนึง  คนนั้นก็สุดแต่จะพิจารณาครับ

ขอบคุณมากค่ะ อ.ไสว  ดิฉันเชื่อตามที่คุณแนะนำมาค่ะแต่เพื่อนๆคนอื่นๆกลัวเขาค่ะ บอกกลัวติดคุก ทนายคนนั้นเขาบอกว่าให้กัดฟันหามาจ่ายเขาให้ได้ก่อน พยายามยื้อให้ได้เกินสามเดือนไปก่อนค่ะ ถ้าสามเดือนนี้เขาแจ้งความเราติดคุกอย่างเดียวค่ะ มันเป็นคดีอาญาเราเสียเปรียบ แต่ถ้าพ้นสามเดือนมันจะเป็นคดีแพ่ง เราไม่ติดคุกแน่นอนค่ะ เพื่อนๆคนอื่นๆเขาเลยจะยอมหามาจ่ายก่อนแต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครหาได้ค่ะ แต่เพื่อนๆบอกจะพยายามยื้อให้พ้นสามเดือนให้ได้ค่ะ   เมื่อวานตั้งใจจะไปแจ้งความแล้ว แต่เพื่อนๆไม่เอาด้วย ดิฉันกลัวไม่มีพยานน่ะค่ะ          

                                     ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำแนะนำ ดิฉันสบายใจขึ้นมากค่ะ อย่างน้อยยังมีคนให้คำปรึกษา ให้ข้อมูลได้ทราบว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างค่ะ  ขอบพระคุณมากๆนะคะ อ.ไสว

อย่าลืมนะครับ

     ผู้เสียหาย  ก็มีที่ปรึกษากฎหมายเหมือนกัน  ผมคิดว่าที่ปรึกษาหรือทนายความ

ในคดีนี้  คงไม่หลุดเรื่องอายุความ  คงไม่ปล่อยให้เลยกำหนดเวลาแจ้งความดำเนินดคีแน่นอน

      ขอแนะนำเพิ่ม  สำคัญ  คือ  หากเรามีความประสงค์จะชดใช้จริง   อย่าตกลงปากเปล่า

จะจ่ายเงินคืน  จะตีราคาทรัพย์สินชดใช้   ให้ทำบันทึกไว้ด้วย  ให้ลงชื่อผู้เสียหาย  กับเราด้วย

อาจเป็นหนังสือตกลงรับสภาพหนี้  หรือประนีประนอมยอมความ  หรือบันทึกรับผิดและชดใช้ค่าเสียหายก็ได้

แต่ต้องลงชื่อทั้งสองฝ่ายนะครับ   หากตกลงกันแล้ว   คดีนี้   จากคดียอกยอก ก็ถือว่ามีการยอมความกันแล้ว

จะกลายเป็นความแพ่งทันทีครับ  

เขาโทรเข้ามานัดไปคุยวันจันทร์นี้ค่ะ ฟังจากที่เขาพูดมาเหมือนว่าตอนนี้ เรามีเท่าไหร่เขาก็เอา แต่ยอดที่เขาจะให้ดิฉันรับชำระทั้งหมด คือ 1 ล้าน ซึ่งมันเกินจริงมากค่ะ ตอนแรกดิฉันแจ้งเขาแล้วนะคะว่าเราจะยอมรับที่เท่าไหร่แต่เขาไม่ฟังเลย เขายืนยันยอดของเขา ทั้งๆที่ยอดยกเลิกมันมีทั้งที่ลูกค้าไม่เอาจริงๆ และที่เรายักยอกด้วยค่ะ วันจันทร์นี้ดิฉันจะตกลงกับเขาอีกครั้ง ถ้าเขายังยืนยันยอดเดิม ดิฉันจะให้เขาแจ้งความค่ะ แต่คนที่เป็นคู่กรณีกับพวกดิฉันไม่มีอำนาจตัดสินใจค่ะ เป็นแค่ตัวแทน เขาต้องไปปรึกษาเจ้าของอีกทีค่ะ แต่ว่าเหมือนเขาไม่อยากแจ้งความค่ะเพราะมีเพื่อนบางคนไม่ติดต่อกลับไปเลย เขาก็ยังไม่แจ้งความค่ะ 

                                                                                      ขอบคุณนะคะ อ.ไสว