สวัสดีครับ

        คุณคนทำผิด

       ผิดหรือไม่ผิด  ท่านทั้ง ๘  คน คงรู้อยู่กับใจอยู่แล้ว  คงไม่ต้องพูดถึง   หากผิด  ยอมรับผิด  ชดใช้ค่าเสียหายคืนเงิน

ตามจำนวนที่เสียหายจริง    ศาลก็ให้โอกาสปรับตัวครับ   หากไม่เคยมีประวัติมาก่อนยิ่งมีเหตุบรรเทาโทษ  คงไม่ต้องกลัว

ปัญหา คือ  การกระทำของนายจ้าง  เกินกว่าเหตุหรือไม่

        เราทำผิด  นายจ้างมีสิทธิ คือ  ฟ้องศาลเรียกเงินคืน  และ  หรือ แจ้งความดำเนินคดีทางอาญา 

ไม่มีสิทธิ    หักค่าจ้าง    กักขังหน่วงเหนี่ยว  กรรโชกทรัพย์   ยึดทรัพย์ของลูกจ้างเอง    ต้องฟ้อง และให้ศาลพิพากษา

แล้วเท่านั้น  จึงจะมีสิทธิดำเนินการใด ๆ ตามคำพิพากษาได้

      ดังนั้น    ตอนนี้  สิ่งที่คุณทำได้    คือ   แจ้งความดำเนินคดีอาญากับ  ผู้กระทำผิดคนนั้น  ในข้อหา

     กักขังหน่วงเหนี่ยว   ชิงทรัพย์(เงินสดและรถยนต์)   และกรรโชกทรัพย์   และให้คืนทรัพย์ที่ยึดไปคืนทั้งหมด     แจ้งความได้เลย

     เพราะ  แม้เราจะทำผิด   แต่นายจ้างก็ไม่มีสิทธิจะกระทำกับเราได้ตามข้อเท็จจริงดังกล่าว   นายจ้างต้องฟ้อง  หรือแจ้งความ

ตามขั้นตอนกฎหมาย     สิ่งที่นายจ้างทำ  ถือว่าทำเกินกว่าเหตุ  และกระทำผิดต่อกฎหมาย

     ถ้าให้เปรียบเทียบ  สิ่งที่นายจ้างทำโทษร้ายแรงกว่า  ข้อหายักยอกทรัพย์ด้วยซ้ำครับ    รีบดำเนินการนะครับจะเสียสิทธิ

    ผิดก็ว่าไปตามผิด  แต่การกระทำใดแม้เป็นการอ้างสิทธิ  แต่ไปละเมิดสิทธิของคนอื่น ก็เป็นควมผิดได้ครับ

เพิ่มเติมครับ

        รถติดไฟแนนซ์อยู่   ให้แจ้งบ.ไฟแนนซ์  และให้ไฟแนนซ์ติดตามได้อีกทางก็ได้ครับ  เพราะกรรมสิทธิ์รถยนต์

เป็นของไฟแนนซ์  แม้เราทำผิด ใครก็เอาไปไม่ได้  เพราะรถยังไม่ใช่ของเรา เราเป็นแค่ผู้ครอบครองเท่านั้น

ขอบคุณมากค่ะ คุณไสว (ขอโทษนะคะที่ตอบช้า กำลังยุ่งๆอยู่ค่ะ)