ค่ากะ  ไม่ใช่โอที  ไม่ใช่ค่าทำงานในวันหยุด

ดังนั้น  มาทำงานตามกะ  ที่กำหนด  ไม่ว่าจะเป็นวันทำงานปกติ  หรือทำงานในวันหยุด

เมื่อมีสวัสดิการค่ากะดังกล่าว  บริษัท ฯ ก็ต้องจ่ายเหมือนกัน  ทุกวันที่พนักงานเข้ากะ 

ตามอัตราที่กำหนด

       กรณีต้องการยกเลิกค่ากะ   ให้กลับไปดูระเบียบ  หรือสวัสดิการ  เรื่องค่ากะ  ว่า

ระเบียบหรือสวัสดิการดังกล่าว  มีที่มาจากไหน   คือ

      ๑)  เป็นการตกลงกันกับลูกจ้างตั้งแต่แรก ในสัญญาจ้าง   ว่าในการทำงานมีค่ากะให้ด้วย  หรือ

      ๒)  มีการยื่นข้อเรียกร้อง  เป็นเงื่อนไขการจ่ายตามที่ตกลงกัน  มีบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง หรือ

      ๓)  เป็นสวัสดิการที่นายจ้างประกาศหรือจัดให้เอง  เพื่อจูงใจให้พนักงานเข้าทำงานกะ

      ตามข้อ ๑) และ ข้อ ๒)  ถือเป็นสภาพจ้าง    ข้อ ๓)  เป็นสวัสดิการ   

      หากค่ากะ  มีที่มาจาก ข้อ ๑   การจะเปลี่ยนแปลงก็ต้องตกลงกับลูกจ้างในการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว 

เพราะถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างเดิมที่ตกลงกันไว้ในสัญญาจ้าง

      หากเป็นกรณี ข้อ ๒) จะยกเลิก   นายจ้างต้องยื่นข้อเรียกร้องต่อพนักงาน   เพื่อขอเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างดังกล่าว

ซึ่งต้องดูด้วยว่า  ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเดิม  ใช้บังคับกี่ปี  และหมดอายุเมื่อไหร่  ให้ยื่นก่อนข้อตกลงหมดอายุ

     หากเป็นกรณี ข้อ ๓) นายจ้างสามารถปรับเปลี่ยนหรือยกเลิกได้ตามความเหมาะสมครับ

เรียนถามเพิ่มเติมครับ

ผมคัดสัญญาจ้างข้อนี้มาให้ดู อยากถามว่า ถ้าเป็นการโอนย้ายไปคนละสายงาน ที่เราไม่มีความชำนาญ

และเราไม่อยากโอนย้าย แต่ถูกบังคับโดยทางใดทางหนึ่งให้ต้องยินยอม (การบังคับไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษ์อักษร

แต่เป็นการบีบคั้นทางอื่นเช่น เกรด คะแนนการประเมินเพื่อปรับเงิน ก็อาจจะได้ต่ำลง หรือไม่ก็ไม่ปรับเงินค่าจ้างให้เหมือนคนอื่น)

กฏข้อนี้ของบริษัทจะยังใช้บังคับได้หรือไม่ครับ

3.2  นายจ้างมีสิทธิ ดังต่อไปนี้ 
3.2.1  กำหนด แก้ไขเปลี่ยนแปลง ยกเลิก หรือเพิ่มเติมวันและเวลาทำงานปกติ วันหยุด วันลา เวลาพัก และหรือ
สวัสดิการ
3.2.2  กำหนด หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับเกี่ยวกับการทางาน  สภาพการจ้าง  รวมทั้งการโอนย้ายตำแหน่ง
หรือหน้าที่การงานในบริษัท  หรือบริษัทในเครือตามที่นายจ้างจะเห็นสมควร และเหมาะสมได้ รวมทั้ง
สงวนสิทธิที่จะย้ายลูกจ้างไปประจำหน่วยงานของบริษัทฯ  หรือโอนย้ายไปยังหน่วยงานของบริษัทฯ  ใน
เครือแห่งใดก็ได้  ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยนายจ้างไม่มีพันธะที่จะต้องจ่าย
ผลประโยชน์ตอบแทนใดๆ แก่ลูกจ้าง  และลูกจ้างขอยืนยันสละสิทธิเรียกร้องหรือใช้สิทธิอื่นใด โดยข้อถือ
ระเบียบข้อบังคับของบริษัทฯ และกลุ่มบริษัทในเครือเป็นหลัก แต่การโอนย้ายดังกล่าว จะไม่สงผลกระทบ ต่อระยะเวลาการทำงานของลูกจ้าง โดยจะถือว่าลูกจ้างเริ่มปฏิบัติงาน ณ บริษัท ที่โอนย้ายลูกจ้างไป
นับตั้งแต่วันที่ลูกจ้างเริ่มงานตามสัญญาฉบับนี้เป็นต้นไป

 สัญญาจ้างแรงงาน  เป็นสัญญาต่างตอบแทน

การที่ตกลง  เรื่องการโยกย้าย  เปลี่ยนแปลงตำแหน่งหน้าที่   ถือว่าเป็นเงื่อนไขในการ

ตอบแทนซึ่งกันและกัน  เป็นการตกลงกันไว้ตั้งแต่เริ่มต้นทำสัญญา   

ข้อตกลงดังกล่าว  ถือว่าบังคับใช้ได้    และการโยกย้าย ปรับเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่

โดยทั่วไป  ก็เป็นไปเพื่อควมเหมาะสม  เพื่อให้การบริหารจัดการของนายจ้างเป็นไปอย่างมี

ประสิทธิภาพ   นายจ้างจึงสามารถปรับเปลี่ยนโยกย้ายได้ตามความเหมาะสม

        แต่หากกณี  มีข้อเท็จจริง  หรือลูกจ้างพิสูจน์ได้ว่า  การโยกย้าย  เป็นไปเพื่อการกลั่นแกล้ง

บีบบังคับเพื่อไม่ให้ทนทำงานต่อไปได้   ลูกจ้างก็สามารถไปฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวได้ครับ

      กรณีการโอนย้ายไปทำงานบริษัท ฯ อื่น ถือว่าเป็นการเปลี่ยนตัวนายจ้าง  แม้ว่าจะเป็นบริษัท ฯ ในเครือ

ถือว่าเป็นคนละนิติบุคคล  การตกลงดังกล่าวต้องตกลงกันทั้งสองฝ่าย  ทั้งลูกจ้างและนายจ้าง  รวมถึง

นายจ้างใหม่ที่รับโอนด้วย   และการโอนนั้น   ต้องนับอายุงานต่อเนื่อง   สิทธิและหน้าที่ต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิม

ย่อมโอนไปด้วย   หากเป็นการนับอายุงานใหม่  ถือว่าไม่ถูกต้องครับ

รบกวนเรียนถาม

 การจ่ายค่ากะต้องมีเงื่อนไขจ่ายหรือไม่ในกรณีที่จะจัดให้เป็นสวัสดิการ

 ปกติค่ากะ  จะมีเงื่อนไขการจ่ายอยู่แล้วครับ  เช่น

จ่ายเฉพาะพนักงานระดับ........  หรือ จ่ายเฉพาะพนักงานที่เข้ากะทุกคน

หรือเขากะ................... และต้องเข้าทำงานตั้งแต่เวลา ถึงเวลา

หรือเข้างานสายไม่เกิน.............  และ

สงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

ผมทำงานที่บริษัท เข้า

กะ 06.00 14.00 น

กะ14.00-22.00น

กะ22.00-06.00น

กะ08.00-20.00น

กะ20.00-08.00น

บริษัทนิคมลาดกระบังค่ากะที่เหมาะสมอยู่ที่เท่าไร

หลักการที่คิดค่ากะเหตูผลที่นำมาเสนอให้บริษัทจ่ายค่ากะ

ขอสอบถามค่ะ

บริษัทกำหนดการเข้างานของกะดึกคือเวลา 20.00-05.00 และจ่ายค่ากะให้กับพนักงานที่เข้าทำงานเวลานี้

แต่ถ้าพนักงานมาทำงานสาย หรือ มีการลางานทุกกรณี 4 ชั่วโมงแรก หรือ 4 ชั่วโมงหลัง แบบนี้เราสมควรพิจารณาจ่าย

ค่ากะหรือไม่ค่ะ

 ดิฉัน มีข้อซักถามเกี่ยวกับการหยุดหลังทำงานกะดึกคะ คือจะเข้างาน

เวลา 20.00 ถึง 8 .00 เช้าอีกวัน ติดต่อกัน 2 คืน จากนั้น

ในเวลา 8.00 เช้า ของวันรุ่งขึ้นก็จะได้พัก ก่อนมาทำงาน

ในเวลา 8.00 โงเช้าของอีกวันหนึ่ง วันที่พักถือเป็นวันหยุดรึป่าวคะ

คือดิฉันเข้าใจว่า ไม่ใช่วันหยุดคะ เพราะวันหยุดจริงๆ นั้น

เราจะต้องได้หยุดทั้งวัน และคืน ไม่ใช่การออกกะมาในตอน

เช้า แต่ฝ่ายบุลคลของทางบริษัท กำลังทำให้เราเข้าใจว่ามัน

คือวันหยุดคะ

 บริษัทให้ทำงานวนกะ1เดือน ดิฉันทำกะB1เดือนเต็ม ทำงาน21.00-09.00 น.มีโอทีบังคับในตัว  หัวหนัางานแจ้งให้ย้านกะ ย้านกะทันหัน เข้ากะดึกต่ออีก1เดือน ร่างกายตอนนี้ป่วยค่ะ มีเลือดออกทางช่องคลอดโดยหมอยังไม่ทราบสาเหตุ  ออกขณะทำงานแต่ไม่ได้รับการดูแลจากโรงงานเลย ...ไปหาหมอ หมอก็ให้รอหมอเฉพาะทาง ออกใบรับรองแพทย์ให้วันเดียว  ไปทำงานไม่ไหวและไปหาหมอทุกวันไม่สะดวกเดินทางแฟนลางานทุกวันพาไปไม่ได้ค่ะ ...โรงงานเอาใบลาออกมาให้เขียนถึงบ้านเลย เพราะไม่สามารถทำงานได้ต่อ และยังไม่รุ้สาเหตุที่ป่วย เรามีสิทร้องฟ้องเขาได้หรือไม่คะ