ReadyPlanet.com


ถูกยกเลิกค่าวิชาชีพที่เคยได้แต่เดิม


เดิมเคยได้รับค่าวิชาชีพทางวิศวกรรม 4,000 ตั้งแต่บรรจุเข้าทำงาน โดยการยื่นใบ กว. ตั้งแต่ 1 ก.พ.37

ถือเป็นสภาพการจ้างที่สมบูรณ์หรือไม่ ตั้งแต่เมื่อใด

ต่อมาบริษัทขอความร่วมมือผู้ที่ได้ค่าวิชาชีพให้ยินยอมลดจาก 4,000 เหลือ 3,300 (ปี 49) ทั้งบริษัทและมีการเซ็นยินยอม (เหมือนกับแกมบังคับ) เพราะทุกคนเซ็นหมด พร้อมมีเงื่อนไขของบริษัท เช่น 1)อาจยกเลิกเมื่อใดก็ได้ 2) ทำงานไม่ตรงสายวิศวกรรมก็ไม่ได้ 3) ทำตรงแต่ชั่วโมงงานวิศวกรรมไม่ครบก็ไม่ได้ เป็นต้น

และต่อมาถูกย้ายไปทำงานในหน่วยที่ไม่ตรงสายวิศวกรรม และถูกยกเลิกค่าวิชาชีพ

ถามว่า ควรจะทำอย่างไรดีครับ รายได้ไม่พอดูแลครอบครัว



ผู้ตั้งกระทู้ ต้นตาล โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-18 00:37:34 IP : 125.27.174.120


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3294719)

 สวัสดีครับ

        กรณีนี้  ต้องพิจารณอย่างตรงไปตรงมานะครับ   

การทำบันทึกข้อตกลงกับนายจ้าง  เรื่องนี้  อาจเป็นผลมาจากการเจรจา  พูดคุย หรือนโยบาย  

ทั้งนี้เพื่อลดค่าใช้จ่ายของบริษัท ฯ การที่ลูกจ้างตกลงยินยอมด้วย   เพื่อช่วยเหลือบริษัท ฯ ถือเป็นเรื่องดี  

ข้อตกลงลดค่าวิชาีชีพดังกล่าวลง  ถือว่าบังคับใช้ได้

      ส่วนการกำหนดว่า บริษัท ฯ อาจยกเมื่อใดก็ได้  หรีือเมื่อทำงานไม่ตรงกับสายงาน  

หรือเงื่อนไขอื่นที่กำหนด   เป็นอีกกรณีที่ต้องพิจารณา

      โดยทั่วไปแล้ว   เงื่อนไขดังกล่าวถือได้ว่าเป็นเงื่อนไขมาตรฐาน  ซึ่งบริษัท ฯ ส่วนใหญ่นิยมนำมากำหนด

เป็นเงื่อนไขการจ่าย    เนื่องจาก  ถือว่าเป็นสวัสดิการ    

       แต่ส่วนใหญ่สวัสดิการทั้งหลาย   นายจ้างจะกำหนดเงื่อนไขการจ่ายไว้ตั้งแต่แรกที่ประกาศหรือกำหนด

 สวัสดิการนั้น ๆ แล้วเมื่อถึงระยะเวลาหนึ่ง  นายจ้างจึงมีสิทธิพิจารณายกเลิกหรือปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใด  

ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ได้   ซึ่งเงินค่าวิชาชีพ  โดยหลักแล้วเป็นสวัสดิการที่นายจ้างจัดให้  

เงื่อนไขส่วนใหญ่ คือ  หากมีการเปลี่ยนแปลงไปทำงานตำแหน่งหน้าที่อื่นที่ำไม่ต้องใช้ความรู้

ความสามารถหรือวิชาชีพแล้วก็จะไม่ได้รับ   หรืออาจจะเป็นค่าตำแหน่ง   ค่าความเสี่ยงหรือค่าความปลอดภัย  เป็นต้น  

นายจ้างอาจกำหนดเงื่อนไขหรือหลักเกณฑ์การจ่ายกำหนดไว้ได้ 

      แต่กรณีของท่าน   อาจมีความแตกต่างในข้อเท็จจริง   กล่าวคือ หากเป็นสภาพการจ้างเดิมอยู่  

จ่ายโดยไม่มีเงื่อนไขมาก่อน     ภายหลังมาตกลงให้ลดลง   และกำหนดเงื่อนไขใหม่  

ข้อเท็จจริงอาจฟังได้ว่า  การตกลงหรือกำหนดเื่งื่อนไขใหม่นั้นไม่เป็นคุณแก่ลูกจ้าง

หรือทำให้ลูกจ้างเสียเปรียบเกินควร   ซึ่งหากท่านเห็นว่า  ไ่ม่ได้รับความเป็นธรรมหรือข้อตกลง

หรือสัญญาดังกล่าว  เป็นการเอาเปรียบมากเกินควร   ท่านสามารถยื่นฟ้องต่อศาลแรงงาน  

ให้ศาลสั่งยกเเลิกหรือให้บังคับใช้ได้เฉพาะที่เป็นธรรมก็ได้ครับ

      ต้องพิจารณาดี ๆ ครับ  ว่าการฟ้องร้องเป็นผลดีต่อท่านและองค์กรหรือไม่    หรือควรเริ่มต้นจากการพูดคุยเจรจากันก่อน  

อย่างไหนจะเป็นผลดีกว่ากัน

      ผมว่าปัญหานี้มีทางออกครับ   ลองพูดคุยกันเสียก่อน  แบบตรงไปตรงมา

ผู้แสดงความคิดเห็น ไสว วันที่ตอบ 2011-05-19 10:05:44 IP : 202.183.133.100


ความคิดเห็นที่ 2 (3295417)

ตกลงแล้วเป็นสภาพการจ้างใช่ใหมครับ  ขอบคุณครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชมรมตนรักคุณธรรม วันที่ตอบ 2011-05-25 10:33:54 IP : 182.52.21.36


ความคิดเห็นที่ 3 (3295519)

         กรณีนี้   ถือเป็นสภาพการจ้างเดิมที่มีอยู่  เพราะเดิมไม่มีเงื่อนไขหรือหลักเกณฑ์อื่นในลักษณะว่าเป็นสวัสดิการ

ที่นายจ้างจัดให้  

        แต่เป็นการกำหนดค่าตอบแทนวิชาชีพให้แก่ลูกจ้าง  เมื่อเริ่มเข้าทำงาน  ซึ่งมีผลบังคับใช้นับแต่วันเข้าทำงาน

ตามที่ตกลงว่าจ้างกัน     จึงถือว่าเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างอย่างหนึ่ง

        สังเกตุได้  หากเป็นสวัสดิการนายจ้างคงยกเลิกไปแล้ว   ไม่จำต้องให้ลูกจ้างเซ็นยินยอมหรอกครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ไสว วันที่ตอบ 2011-05-25 23:46:25 IP : 58.11.51.58


ความคิดเห็นที่ 4 (3295523)

ตกลงแล้วเป็นสภาพการจ้าง  แล้วส่งศาลแรงงานมีสิทธิ์ชนะไหม ค่าทนายดำเนินเดินเรื่องเท่าไหร่  และช่วงส่งฟ้องร้องดำเนินคดี รอคำพิพากษาสรุปสำนวนคดีจะทำงานตามปฎิบักษ์สั่งงาน หากขัดคำสั่งเขา ควรวางตัวอย่างไรดีโดยไม่มีความผิด และควรแจ้งความป้องกันทรัพย์สินชีวิตครอบครัวรู้สึกไม่ปลอดภัย ขอพกอาวุธป้องกันตัวได้ไหมหากช่วงมีคดีความ ขอบคุณครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชมรมตนรักคุณธรรม (surasakipcam-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-05-26 06:35:51 IP : 125.27.161.165


ความคิดเห็นที่ 5 (3295559)

-  ตกลงแล้วเป็นสภาพการจ้าง  แล้วส่งศาลแรงงานมีสิทธิ์ชนะไหม ค่าทนายดำเนินเดินเรื่องเท่าไหร่ 

      เงื่อนไขหรือข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างใด  ที่ไม่เป็นคุณแก่ลูกจ้าง  หรือเป็นการเอาเปรียบลูกจ้างมากเกินควร

ศาลจะเป็นผู้พิจารณาเองครับ  ว่ามีเหตุอันสมควรจะปรับเปลี่ยน  แก้ไข  หรือใช้บังคับได้เพียงใด  อย่างมุ่งหวังในการ

เอาชนะซึ่งกันและกันเลยครับ  มุ่งหวังให้เกิดความเป็นธรรมและเสมอภาค  ไม่เอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกันดีกว่า

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี  ศาลแรงงานไม่มีค่าธรรมเนียม  และไม่มีค่าใช้จ่ายครับ   แต่ืหากจะจ้างทนายเอง

ต้องตกลงต่างหากครับ   ต้องคุยในรายละเอียด

 

-   และช่วงส่งฟ้องร้องดำเนินคดี รอคำพิพากษาสรุปสำนวนคดีจะทำงานตามปฎิบักษ์สั่งงาน หากขัดคำสั่งเขา ควรวางตัวอย่างไรดีโดยไม่มีความผิด

      ระหว่างดำเนินคดี  เป็นปกติที่อาจมีความรู้สึกไม่ดี  แต่ตราบใดที่ทำงานอยู่  ขอให้ทำงานตามหน้าที่ให้ดีที่สุด

หากคำสั่งใดเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ  หรือเจตนากลั่นแกล้ง  ก็สามารถสอบถามพูดคุยกันได้   การโต้แย้งไม่ปฏิบัติตามในทันที

ทันใดเลยนั้น  อาจไม่ส่งผลดีนัก  ควรพิจารณาและปฏิบัติตามสมควรแก่เหตุเป็นเรื่อง ๆ ไป  

เพราะโดยระบบในการบริหารจัดการทั่ว ๆ  ไป  มักมีขั้นตอนการอุทธรณ์ หรือร้องเรียน  เราสามารถใช้สิทธิตามขั้นตอนนั้นได้   

 

-  ควรแจ้งความป้องกันทรัพย์สินชีวิตครอบครัวรู้สึกไม่ปลอดภัย ขอพกอาวุธป้องกันตัวได้ไหมหากช่วงมีคดีความ 

       เรื่องนี้เป็นเพียงข้อพิพาทแรงงานเท่านั้น   ถึงขนาดเอาชีวิตหรือเป็นอันตรายขนาดนั้นเลยหรือครับ  

ผมว่าไม่น่าจะรุนแรงขนาดนั้นนะครับ  ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ พูดจากันดีกว่าครับ    การพกอาวุธป้องกันดัว  ไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว

ไม่ว่าตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานหรือตามกฎหมาย  ถือว่ามีความผิดครับ  ไม่แนะนำ  และอาจก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ

ตามมา เช่น  การทำร้ายซึ่งกันและกัน  ถูกจับคุม(อาจเป็นข้อหาพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะหรือทำร้ายร่้างการ)  

ทำให้ขาดอิสระภาพ  ผลที่ตามมาคือครอบครัว ภรรยา  บุตร ต้องเดือดร้อน เพราะขาดผู้นำ   เสียอนาคตที่ดี

     การแจ้งความ   ต้องเป็นกรณีถูกคุกคามหรือข่มขู่   หรือมีเหตุจูงใจใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

แจ้งความไว้เป็นหลักฐานได้  แต่กรณีนี้  ยังไม่ถึงขนาดต้องแจ้งความครับ 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ไสว วันที่ตอบ 2011-05-26 11:09:24 IP : 202.183.133.100


ความคิดเห็นที่ 6 (3295609)

แล้วนึกถึงคนที่จบ ป.ตรี เหมือนกับพวกคุณแต่ไม่ได้ค่าวิชาชีพบ้างไหม

ผู้แสดงความคิดเห็น คนช่างสงสัย วันที่ตอบ 2011-05-26 15:46:32 IP : 203.113.0.206


ความคิดเห็นที่ 7 (3296542)

หากจบมาตรงสายงานที่สอบครั้งแรกบรรจุเข้ามาครั้งแรกเช่น วท.บ คอมพิวเตอร์ วศบ.,Electronic หากมีใบ กว. หรือใบรับรองจบNetworkเฉพาะทางหรือเรียกย่อๆว่าใบเซอร์ทิพิเคท ก็แบ่งอีกว่าระดับไหนเช่น 6000/เดือน ไม่รวมเงินเดือน แยกต่างหาก มาทำIDC ดูแลเครือข่าย งานสื่อสารข้อมูล ก็ตรง ซึ่งถือว่าเป็นสาขาที่ขาดแคลน และปวส.มาทำงานมีโครงงานเสนอก็อาจสอบผ่านเข้าทำงานได้ มีการเลื่อนตำแหน่งตามสายงานอาชีพ มีความก้าวหน้าก็ให้เพิ่มศักยภาพสูงขึ้น โปรโมทตามลำดับ แต่พี่เค้าได้มาพร้อมสอบบรรจุครั้งแรกมีการตกลงพูดคุยวันสมัครสอบ ก็ต้องเข้าใจพี่เค้าโดนกลั่นแกล้ง ร่วมกันฉ้อฉล ก็คือโกงนั่นแหละ ย้ายไปที่ไม่เป็นคุณหลายหน่วยงาน ภายในปี ซึ่งผิดเท่ากับเสียโอกาสเจริญเติบโตในตำแหน่ง เสียโอกาสก้าวหน้าที่สายงานวิศวกรรม อย่างคิดมูลค่ามิได้ เทียบตัวเงินก็มหาศาล อยู่แบบทุกขเวทนา กดดันสภาพจิตใจ มานานนับ10กว่าปีที่ทรมาน น่าสมเพศเวทนาจริงๆ เท่ากับว่าไม่เป็นคุณแล้วไม่พอ หัวหน้างานบ้าอำนาจมีมากมายในบริษัทฯก็ร่วมกันเจตนาโยกย้ายอีก แกล้งให้งานไม่ถนัด ไม่ชอบประเมินตก ย้ายไปไม่ในระนาบเดียวกัน แถมยุบ ของานไปทำเอง ให้พรรคพวกนั่งตำแหน่ง ผจก.ทำถ่างขา โดนเลื่อยขาเก้าอี้ไม่พอ แถมฉ้อฉลอีก หัวหน้าทำไม่ได้ไม่มีสิทธิ์ ต้องส่งให้สายงานบุคคลประเมิน หรือส่งตัวกลับต้นสังกัดเดิมว่าผิดอะไร แต่นี่พี่เค้าไม่เคยผิดอะไร แถมหัวหน้างานตั้งคนไม่ถูกกัน เคยมีเรื่องในงานลุมชก ทำร้ายร่างกายพี่เค้า เพื่อใส่ความในงาน แล้วด่าทอใส่ร้ายหัวหน้างานทำหนังสือกล่าวร้ายว่า ป้ายสีพี่เค้ามีปัญหาทางสมอง ไม่พาไปบำบัด แถมพาพวกมาชกเค้า ด่าพ่อล่อแม่ สัตว์***เต็มที่ทำงานจนต้องลุกมาชกคืน แล้วก็แตกแยกกัน จากนั้นเป็นต้นมาสู่สาเหตการขโมยของในบริษัท จับวีดีโอได้แต่ไล่ยามออก ของหายให้ยามจ่ายแทน คนเงินเดือนน้อยอยู่แล้วน่าเห็นใจ หนำช้ำรถยนต์จอดอยู่ที่ทำงานก็โดนสาดกรดเสียหายเลวร้ายสิ้นดี คนประเภทนี้ก็อยู่ในองค์กรใหญ่โต ที่ใฝ่ฝันเข้าทำงาน อยากให้ลูกหลานมาฝึกงาน เข้าสานต่อยอดปัญญาคนรุ่นเก่าสุ่คนรักองค์กร น้ำใหม่ๆใสสะอาด แทนที่ ไม่อยากให้เห็นความชั่วร้ายหรือเห็นความล้มเหลวคนชั่วช้าสามานคนประเภทนี้ ต้องสาปแช่งพวกโกงแผ่นดิน หนักแผ่นดิน สมบัติรัชกาลที่๕ ฝากให้ดูแลไว้ช่วยคนยากจนจริงๆ จะได้ช่วยคนจน คนว่างงาน เข้างานที่มีเกียรติ คนเป็นเจ้านายต้องยึดคุณธรรม จริยธรรม หัวหน้างานทำได้  แต่ต้องให้คุณพี่เค้า ให้งานในตำแหน่งที่สูงขึ้น แต่ไม่ใช่ ให้ไปล้างส้วม ล้างแอร์ ล้างขี้หมา ปีนขึ้นบนอาคารดาษฟ้าแตนต่อไล่กัด งูชุกชุมก็ต้องปุกป่าผ่าดงทำงานให้ลูกค้าว่าสำคัญที่สุดด้วยใจไม่เคยเกี่ยงงงานหนักเบา ทั้งHW./SW. ให้ไปล้างขี้นกช่วงไข้หวัดนกระบาดพอดีพี่เค้าไอมาก เจ็บหน้าอก X-LaYพบว่าปอดได้หายไปข้างนึง คือแฟ็บไป หายใจไม่สะดวกหมอไม่แจ้งผลวินิฉัยว่า... มันทำพี่เค้าเลวซาติสุดๆให้ปีนเสาสูงกว่าร้อยเมตร พอตกลงมา ซี่โครงหัก3ซี่ เอารถหลวงเข้าโรงพยาบาล บาดเจ็บขณะปฎิบัติงานราชการหาลูกค้าแท้ๆยังหาว่าเอารถหลวงไปใช้งานเลยเวลา17.00น ไม่ช่วยยังเหยียบซ้ำโดยการตัดค่าใบประกอบวิชาชีพวิศวกร ก็เท่ากับลิดลอนเงินเดือน หรือสวัสดิการ โดยเฉพาะไม่ให้ส่งผลกระทบจิตใจ ครอบครัว ลูกเมียเค้า เท่ากับกลั่นแกล้งกันเป็นโทษถือว่าผิดกฏหมาย เปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างโดยที่ลูกจ้างไม่เคยเซนต์ซื่อยินยอม(เอกสารต้องอ่านให้เข้าใจก่อนเซนต์ลายมือชื่อ)ต้องรอบคอบมากๆการออกคำสั่งมอบหมายหน้าที่งานต้องสมกับหน้าที่ วิทยฐานะลูกจ้างด้วย อ่านพรบ.ให้เข้าใจหนังสือกฏหมายเล่มสีแดง ฉบับที่สอง หามาอ่านจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อคนโง่ พนักงานมีหน้าที่ศึกษาระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง ประกาศ หลักเกณฑ์และหรือวิธีปฏิบัติของบริษัท รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะปฏิเสธว่าไม่ทราบมิได้
- เมื่อรู้แล้วต้องปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง ประกาศ หลักเกณฑ์และหรือวิธีปฏิบัติของบริษัท และปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่สั่งในหน้าที่โดยชอบด้วย
- การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติก็ดี จงใจไม่ปฏิบัติก็ดี รายงานเท็จหรือปกปิดข้อมูลหรือข้อความต่อผู้บังคับบัญชาก็ดี ขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่สั่งในหน้าที่โดยชอบก็ดี ฯลฯ ... ท่านให้ถือว่ามีความผิด
- พนักงานต้องรู้กฎหมาย พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 และ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2543  

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายต้นตาล วันที่ตอบ 2011-06-04 07:25:05 IP : 125.25.121.112


ความคิดเห็นที่ 8 (3296562)

 แก้ไขเพิ่มเติมครับ

       พรบ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑  ครับ  ปัจจุบัน มีฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ปี ๒๕๕๑  รายละเอียดเปิดอ่านได้ในหมวด กฎหมายสำคัญครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ไสว วันที่ตอบ 2011-06-04 13:59:15 IP : 58.9.155.214


ความคิดเห็นที่ 9 (3296753)

รบกวนปรึกษาเพื่อความกระจ่างค่ะ

*การขัดคำสั่งหัวหน้างานโดยชอบในหน้าที่ตามสายการบังคับบัญชา คือเป็นรองหัวหน้าแต่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้าคือเวลาสั่งให้ทำแล้วไม่ทำ แต่ทำตามความคิดของตัวเอง และไม่สอนงานฝึกงานงานพนักงานช่างคนอื่นให้เรียนรู้เครื่องจักรที่บริษัทนำเข้ามาใหม่ รู้อยู่คนเดียวไม่สอนใคร ไม่ให้ความร่วมมือกับแผนกอื่นๆ  บริษัทก็เสียหาย งานที่ผลิตก็ล่าช้า (ไม่ยอมรับหัวหน้างานเป็นการส่วนตัว)

*กรณีนี้ ถือว่าอยู่ในข่ายของการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาในสายงานตามลำดับขั้น เรียกมาพูดคุยแล้วด้วยวาจาก็ยังไม่ปรับปรุงตัวเอง

จะออกหนังสือเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร หากยังฝ่าฝืนอีกจะให้พ้นสภาพ(ไล่ออก)โดยไม่จ่ายค่าชดเชย ได้หรือไม่

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสายสวาท สุคม วันที่ตอบ 2011-06-06 15:19:18 IP : 58.10.234.178


ความคิดเห็นที่ 10 (3296816)

 ถ้าเป็นไปตามข้อเท็จจริงอย่างที่ท่านว่า

พนักงานท่า่นนี้คงไม่เจริญก้าวหน้าในงานแน่นอน

คำสั่งผู้บังคับบัญชา  อันเกี่ยวข้องกับการทำงาน  และเพื่อประโยชน์แก่งาน

ไม่ได้เกิดจากการกลั่นแกล้ง   บีบบังคับ   หากลูกน้องปฏิเสธถือว่าขัดคำสั่ง

ผู้บังคับบัญชาโดยชอบด้วยกฎหมาย   ตักเตือนได้  หากตักเตือนแล้ว  ยังไม่ปรับปรุง

ยังกระทำความผิดในลักษณะเดิมอีก   ถือว่ากระทำความผิดซ้ำคำเตือน   เลิกจ้างได้

ตาม พรบ.คุ้มครองแรงงาน ฯ มาตรา ๑๑๙ (๔)

      อย่างไรก็ดี  ฝากพิจารณาในมุมมองของ  ผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยนะครับว่า   เราทำ

หน้าที่ในฐานะผู้บังคับบัญชาดีหรือยัง  หรือมีข้อบกพร่องอะไร  หรือที่ลูกน้องไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง

เกิดจากสาเหตุใด   หากเกิดจากเราเอง   เราก็ควรหาแนวทางแก้ไข  และปรับปรุงข้อบกพร่องนั้น  

หรือปรับปรุงวิธีการทำงนวิธีการสั่งการ  เพื่อให้ลูกน้องยอมรับและปฏิบัติตามด้วย  

แม้จะใช้ไม่ได้กับพนักงานคนนี้

แต่อาจเป็นประโยชน์ในการทำงานในอนาคต  เป็นประโยชน์ต่อผู้ใต้บังคับบัญชาคนอื่น ๆ

ในแนวทางที่ดีขึ้นก็เป็นได้ครับ   

เพราะสิ่งที่เราคิดว่าทำดีแล้ว   อาจจะยังไม่ดีพอในอีกมุมมองหนึ่ง  ก็เป็นได้

ลองมองต่างมุมดูนะครับ   อาจเป็นประโยชน์ในการบริหารคน  หรือการดูแลลูกน้องได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ไสว วันที่ตอบ 2011-06-06 21:20:20 IP : 115.87.166.165


ความคิดเห็นที่ 11 (3297032)

ประธานกิจการสัมพันธ์ให้คืนตำแหน่ง,ค่า ใบกว.ภายใน90วันหลังให้มีการทดลองงานตำแหน่งผจก.ได้ตามแผนปฏิบัติงาน100%แต่เจ้านายไม่คืนผิดผ่าฝืนคำสั่ง ระเบียบฯไม่ทำตามมติกิจการสัมพันธ์ กลั่นแกล้งร่วมกันฉ้อฉลออกคำสั่งที่หัวหน้างานไม่มีอำนาจ ดึงดันขัดขืนโจทย์ต่อเนื่อง เพื่อให้ไม่ได้ประโยชน์คดีนี้โจทย์ควรฟ้อง3ศาลแบบ ดร.วงษ์ศักดิ์ สวัสดิพานิช นายกอภิสิทธิ์บอกให้คืนแต่ ไม่คืนกลัวเสียหน้า ประมาณนั้น ควรดำเนินการอย่างไรต่อครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ต้นตาล วันที่ตอบ 2011-06-09 07:00:21 IP : 125.27.176.245


ความคิดเห็นที่ 12 (3297060)

ฟ้องศาลแรงงานครับ   เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ไสว วันที่ตอบ 2011-06-09 12:00:37 IP : 202.183.133.100


ความคิดเห็นที่ 13 (3297383)

เปลี่ยนแปลงตำแหน่งงานคือการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง

http://www.tpa.or.th/tpanews/upload/mag_content/32/ContentFile440.pdf

เป็นความรู้สำหรับผู้เกี่ยวข้อง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ต้นตาล วันที่ตอบ 2011-06-12 01:37:09 IP : 125.27.164.255


ความคิดเห็นที่ 14 (3298022)

สหภาพแรงงานบริษัทฯมีหน้าที่ตัวแทนพนักงานต้องจ้างทนายเองฟ้องบริษัทฯตนเอง ยุยงส่งเสริมไปฟ้องศาลเพราะผู้บริหารทำผิดพลาดไม่สนใจช่วยเหลือพนักงานเรื่องร่วมกันฉ้อฉล เท่ากับร่วมกันปกปิดข้อมูลผิด ไม่ให้ข้อมูล ปิดบังข้อมูลอันควรได้เอกสารจริง รับรองสำเนาถูกต้อง แต่ไม่มีตำแหน่ง ผจก.ลบออก แต่เอกสารโจทย์มีในรายการ บก.และทีมงาน ผจก.ร่วมกันปกปิด ให้ข้อมูลเท็จและคำสั่งเถื่อน แบบนี้ส่วนรวมจะหวังพึ่งใครได้ในองค์กรระดับชาติทั่วประเทศต้องร่วมกันตรวจสอบช่วยสมบัติรัชกาลที่๕นี้ด่วนด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น ช่วยต้นตาล วันที่ตอบ 2011-06-17 08:50:38 IP : 182.52.19.203


ความคิดเห็นที่ 15 (3300521)

คณะกรรมการ และสหภาพ นั่งรถตู้หลวงมาคุยนอกรอบ โดยไม่มีการแจ้งหนังสือเวียนมาทราบ แล้วก้ไปพบผจ.เลย ไม่ยอมให้พบก่อน คงมีการร่วมทูลข้อมูลอันเป็นเท็จอีกรอบ มีมติประชุมว่า ขอให้คืนค่า กว.แต่ตำแหน่งให้ฟ้องศาลแรงงานเอา ทำหลังสือแล้วให้ย้อนหลังุ6เดือน ยื่นกับมือประธานสหภาพแรงานเองเลย แต่พอคล้อยหลังไม่ทันขึ้นรถตู้กลับกรุงเทพฯ  หัวหน้าและผจ. ไม่ทำตามหนังสือสำคัญ เอาเอกสารคืน พร้อมแก้ไข ซึ่งมีการถ่ายสำเนาไว้ พร้อมพยานบุคคลและธุรการส่งคืนว่าไม่ให้ แบบนี้เรียกว่าร่วมกันปกปิด แก้ไข ปลอมแปลงเอกสาร หลักฐานงานบุคคล หนังสือราชการ ร่วมกันจงใจ เจตนากลั่นแกล้ง ร่วมกัน ฉ้อฉลได้ไหมครับ และพอเลิกงานวันนั้นที่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก็มีการยิงปืนขู่เอาเรื่อง ลูกจ้าง พนักงานชั่วคราว ซี่งเนปฏิปักษ์ ก็ไล่ออกไปก่อน แต่ไม่มีการลงบันทึกประจำวัน หรือแจ้งความดำเนินคดีแต่ประการใด ผมควรขอความคุ้มครองพิทักษ์ทรัพย์และชีวิต ครอบครับหรือไม่ อย่างไรครับ เพราะทุกวันนี้ อยู่แบบต้องพกพาอาวุธตลอด กลัวผิดกฏหมายครับ ช่วยตอบด่วนครับ ขอบพระคุณมากครับ จากลูกชาวนา โตด้วยข้าวก้นบาต

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกชาวนาโดยกำเหนิด วันที่ตอบ 2011-07-10 10:15:21 IP : 125.27.170.248


ความคิดเห็นที่ 16 (3300832)

ผู้จัดการไม่แจ้งความลงบันทึกหลักฐานไว้ ถือว่าปกปิด ร่วมกันแจ้งข้อมูลเท็จ ทำลายทรัพย์สินราชการ หากมีพนักงานร้องเรียน หรือร้านค้าชุมชนข้างที่เกิดเหตุแจ้งภายหลัง ผิดโทษหนักไหมครับ ไล่ออกหรือเจอคดีอาญาที่มีการปล่อยให้มีการพกพาอาวุธสงคราม ข่มขู่ ทำลายทรัพย์สินราชการต่าง จนพนักงานไม่มีขวัญ และกำลังใจ อยากทำงานในที่แห่งนี้หมดแล้ว แต่ก็ต้องทนอยู่อย่างอดสู อกสั่น ขวัญแขวน ควรทำไงต่อไปดี เพื่อความยุติธรรมครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ต้นตาล วันที่ตอบ 2011-07-13 04:35:06 IP : 125.27.180.232


ความคิดเห็นที่ 17 (3302783)

ขอเบอร์ทนายว่าความ แนะนำด้วยครับ แบบไม่ต้องให้โจทย์เสียเวลามากมาย เกรงงานกระทบ เพราะมีอะไรที่ต้องพัฒนางานต่อยอดมากมาย ที่ยังทำแล้วยังไม่สานต่อยอดนวัตกรรมครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ช่วยต้นตาล วันที่ตอบ 2011-07-31 12:13:52 IP : 125.27.170.254


ความคิดเห็นที่ 18 (3332303)

ขอขอบพระคุณท่านมากๆครับที่มีคำตอบไว้อ่านบนเวฟตลอดเวลาและทั่วโลก... สวัสดีครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ขอเป็นแรงใจคนที่โดนกลั่นแกล้ง..ต่อสู้ครับ วันที่ตอบ 2012-04-27 01:10:51 IP : 125.27.164.70



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.